ดาวโจนส์ปิดลบ 543 จุด กังวลฐานะแบงก์อ่อนแอ-ดอกเบี้ยขาขึ้น

.ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทรุดหนัก หลังมีข่าวฐานะการอ่อนแอลงของสถาบันการเงิน ประสบปัญหาเงินทุนหมุนเวียน

.บรรยากาศการลงทุน ยังถูกกดดันจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

.นักลงทุนรอลุ้นตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.พ.ในวันนี้ เช็คความแข็งแกร่งเศรษฐกิจ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 9 มี.ค.ที่ 32,254.86 จุด ร่วงลง 543.54 จุด หรือ -1.66%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,918.32 จุด ลดลง 73.69 จุด หรือ -1.85% ส่วนดัชนีแนสแด็ก คอมโฑซิส ปิดที่ 11,338.35 จุด ดิ่งลง 237.65 จุด หรือ -2.05%

บรรยาศการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ทำให้แกว่งตัวแคบในช่วงแรก และต่อมามีแรงขายหุ้นออกมาอย่างหนัก ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯทรุดตัวลงหลังข่าวความอ่อนแอของสถาบันการเงิน ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจ

กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งขึ้น 21,000 ราย สู่ระดับ 211,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 10 สัปดาห์ และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 195,000 ราย ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนความหวังที่ว่าเฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม นักลงทุนมีความวิตกกังวลก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.พ.ในวันนี้

ข้อมูลจาก FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก 60% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 21-22 มี.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากจากระดับ 31% ก่อนที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดจะแถลงต่อสภาคองเกรสในวันอังคารและวันพุธที่ผ่านมา

ทั้งนี้ มีแรงเทขายเข้ามาอย่างหนักนหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากเอสวีบี ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (SVB Financial Group) ซึ่งเป็นธนาคารปล่อยกู้ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ประกาศขายหุ้นมูลค่า 1.75 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากธนาคารประสบปัญหาเกี่ยวกับกระแสเงินสดหมุนเวียนหลังจากยอดเงินฝากจากบรรดาสตาร์ทอัปลดน้อยลง นอกจากนี้ เอสวีบียังปรับลดคาดการณ์รายได้ในปีงบการเงิน 2566

ข่าวดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้นเอสวีบีทรุดตัวลง 60% และยังได้ฉุดดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารดิ่งลง 4.1% ทั้งนี้ หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ร่วงลง 2.06% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก ดิ่งลง 6.18% หุ้นเจพีมอร์แกน ร่วงลง 5.41% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ร่วงลง 3.86% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ดิ่งลง 6.02%

ขณะเดียวกัน หุ้นซิลเวอร์เกต แคปิตอล (Silvergate Capital) ซึ่งเป็นผู้ปล่อยสินเชื่อรายใหญ่ให้กับอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซี ทรุดตัวลง 42.16% หลังจากบริษัทประกาศยุติการดำเนินงาน และขายสินทรัพย์ของซิลเวอร์เกต แบงก์ (Silvergate Bank) เพื่อชำระหนี้

ทั้งนี้ ข่าวซิลเวอร์เกต แคปิตอล ยุติการดำเนินงานเป็นอีกหนึ่งในปัจจัยที่ฉุดดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคาร และยังส่งผลให้ราคาหุ้นกลุ่มธุรกิจบล็อกเชนดิ่งลงอย่างหนักเช่นกัน โดยหุ้นคอยน์เบส ร่วงลง 7.84% หุ้นมาราธอน ดิจิทัล ร่วงลง 10.84% หุ้นไรออท แพลตฟอร์มส์ ร่วงลง 12.22%