ดาวโจนส์ปิดลบ 25จุด นักลงทุนถือเงินสดรอ สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย

  • ผลประกอบการบริษัทออกมาดีดันดัชนีแนสแด็ก-เอสแอนด์พี500ปิดบวก
  • นักลงทุนจับตาการดำเนินการเพื่อหยุดการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19
  • นักวิเคราะห์คาดเศรษฐกิจจีน-เอเซีย ไตรมาสแรกขยายตัวทรุด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดส่งท้ายสัปดาห์ วันวาเลนไทน์ที่ 29,398.08 จุด ลดลง 25.23 จุด หรือ -0.09% ดัชนีเอสแอนด์พั 500 ปิดที่ 3,380.16 จุด เพิ่มขึ้น 6.22 จุด หรือ +0.18% ส่วนดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 9,731.18 จุด เพิ่มขึ้น 19.21 จุด หรือ +0.20%

ดัชนีดาวโจนส์ถูกกดดันจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ ส่งผลให้นักลงทุนบางส่วนชะลอการซื้อขาย รวมทั้งหันมาถือเงืนสดเพิ่มขึ้น เพื่อรอดูสถานการณ์ในช่วงวันหยุดยาวสุดสัปดาห์นี้

โดยตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรสหรัฐจะปิดทำการในวันจันทร์ที่ 17 ก.พ. เนื่องในวันประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งเป็นการระลึกถึงคุณงามความดีของประธานาธิบดีสหรัผฐต่อประเทศ

อย่างไรก็ตาม ดัชนีเอสแอนด์พี 500 และแนสแด็กปรับตัวขึ้นจากตัวเลขผลประกอบการบริษัทที่ออกมาดีกว่าที่คาดโดยเฉพาะ บริษัท Nvidia Corp ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยตัวเลขกำไรและรายได้ในไตรมาส 4 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้มาก รวมทั้งรายงานข่าวที่ว่ารัฐบาลสหรัฐเตียมออกมาตรการใหม่เพื่อกระตุ้นการซื้อขายหุ้น โดยไม่เสียภาษี

ทั้งนี้ ในภาพรวมนักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากไวรัสโควิด-19 หลังนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัวในอัตราต่ำสุดในไตรมาส 1/2563 รวมทั้งกระทบต่อเนื่องถึงเศรษฐกิจในเอเซียหลายประเทศ รวมทั้งเศรษฐกิจโลก แต่อย่างไรก็ตาม คสดว่าผลกระทบนี้จะเกิดในช่วงสั้น

ตลาดยังถูกกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐลดลง 0.3% ในเดือนม.ค. แย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่า อาจลดลง 0.2% หลังจากปรับตัวลง 0.4% ในเดือนธ.ค.

หุ้น Expedia ซึ่งให้บริการแพลตฟอร์มด้านการเดินทางออนไลน์ พุ่งขึ้น 11.04% หลังคาดการณ์ผลประกอบการที่แข็งแกร่ง แม้เผชิญกับความไม่แน่นอนเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19

หุ้นอีเบย์ พุ่ง 2.55% หลังบริษัทเปิดเผยแนวโน้มผลกำไรไตรมาสปัจจุบันดีเกินคาด

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆ ของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ในเดือนม.ค. โดยเพิ่มขึ้น 0.3% สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนธ.ค.

ขณะที่ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 100.9 ในเดือนก.พ. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 99.5 หลังจากแตะระดับ 99.8 ในเดือนม.ค.