.นักลงทุนเทขายหุ้นเทคโนโลยีต่อเนื่อง ทำกำไร-ลดความเสี่ยง
.ตลาดกังวลเฟดมองแนวโน้มเศรษฐกิจฟื้นตัวล่าช้า
.หุ้นกลุ่มการเงินร่วงลงตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 17ก.ย.ที่ 27,901.98 จุด ลดลง 130.40 จุด หรือ -0.47% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 10,910.28 จุด ลดลง 140.19 จุด หรือ -1.27% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,357.01 จุด ลดลง 28.48 จุด หรือ -0.84%
นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ลองโบว์ แอสเซท แมเนจเมนท์ ในรัฐโอกลาโฮมา กล่าวว่า นักลงทุนยังคงเทขายทำกำไรหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากที่หุ้นกลุ่มดังกล่าวพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงในช่วงที่ผ่านมา โดยนักลงทุนมองว่า เหตุผลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณตรึงอัตราดอกเบี้ยต่อไปอีกนานถึง 3 ปีนั้น สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเฟดมีความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำจะเป็นผลดีต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดก็ตาม
นอกจากนั้น นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ยังแสดงความกังวลว่า ทิศทางเศรษฐกิจในวันข้างหน้ายังคงมีความไม่แน่นอนสูง และต้องใช้เวลายาวนานในการฟื้นขึ้นมาเท่ากับช่วงก่อนโควิด-19 ขณะที่อัตราว่างงานก็ยังคงอยู่ในระดับที่สูงมาก เมื่อพิจารณาจากอัตราการมีส่วนร่วมในกำลังแรงงาน (labor force participation) ที่ปรับตัวลดลง
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 860,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งแม้ว่าตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 875,000 ราย แต่นักลงทุนมองว่าจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานยังอยู่ในระดับที่สูง
ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านลดลง 5.1% ในเดือนส.ค. สู่ระดับ 1.416 ล้านยูนิต หลังจากพุ่งขึ้นติดต่อกัน 3 เดือน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.478 ล้านยูนิต จากระดับ 1.492 ล้านยูนิตในเดือนก.ค.
หุ้นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ถูกเทขายต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นบริษัทเทคโนโลยีในกลุ่ม FAANG โดยหุ้นเฟซบุ๊ก ร่วงลง 3.3% หุ้นแอปเปิล ลดลง 1.6% หุ้นแอมะซอนดอทคอม ร่วงลง 2.25% หุ้นเน็ตฟลิตซ์ ร่วงลง 2.82% หุ้นอัลฟาเบทซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ร่วงลง 1.66%
หุ้นกลุ่มการเงินร่วงลงตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ดิ่งลง 2.9% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส ปรับตัวลง 1.2% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ร่วงลง 1.76% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ลดลง 1.05% หุ้นซิตี้กรุ๊ป ปรับตัวลง 1.06%
อย่างไรก็ตาม หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) พุ่งขึ้น 4.4% หลังจากนายแลร์รี คัล์ป ซีอีโอของจีอีได้แสดงความเชื่อมั่นว่า กระแสเงินสดหมุนเวียนของบริษัทจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
หุ้นฟอร์ด มอเตอร์ พุ่งขึ้น 3.7% หลังมีรายงานว่าฟอร์ดเริ่มดำเนินการผลิตรถยนต์ F-150 ซึ่งเป็นรถปิคอัพรุ่นใหม่ ในโรงงานที่รัฐมิชิแกน
