ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 323 จุด นักลงทุนกลับมาซื้อหุ้นคลายวิตกเศรษฐกิจชะลอ

NEW YORK CITY - September 3: Charging Bull sculpture with people on September 3, 2015 in New York City. The sculpture is both a popular tourist destination, as well as "one of the most iconic images of New York".
  • มีแรงซื้อหุ้นสะสมเข้ามาขานรับแนวโน้มผลประกอบการสดใสของบริษัทจดทะเบียน
  • นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
  • ตลาดจับตามาตรการเข้มงวดแบงก์ล้อมคอกวิกฤตสถาบันการเงิน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที 29 มี..ที่ 32,717.60 จุด พุ่งขึ้น 323.35 จุด หรือ +1.00%, ดัชนีS&P500 ปิดที่ 4,027.81 จุด เพิ่มขึ้น 56.54 จุด หรือ +1.42% และดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 11,926.24 จุดพุ่งขึ้น 210.16 จุด หรือ +1.79%

นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและวิกฤตสถาบันการเงินที่ได้รับความช่วยเหลือจากทางการสหรัฐฯ ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการบริษัทที่ออกมาดีช่วยหนุนตลาด

หุ้นไมครอน เทคโนโลยี ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 7.2% และเป็นปัจจัยหนุนดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯดีดขึ้นหลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์รายได้ลดลงในไตรมาส 3 ซึ่งเป็นตัวเลขที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีท พร้อมกับเปิดเผยแนวโน้มผลประกอบการที่สดใสในปีงบการเงิน 2568 เนื่องจากยอดขายผลิตภัณฑ์ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่มีแนวโน้มแข็งแกร่ง

หุ้นลูลูเลมอน แอธเลติกา ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเครื่องแต่งกายกีฬาชั้นนำ ทะยานขึ้น 12.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์รายได้รายปีที่แข็งแกร่ง

คิง ลิป นักวิเคราะห์จากบริษัท BakerAvenue Wealth Management ในซานฟรานซิสโกกล่าวว่า “ผลประกอบการที่สดใสของทั้งสองบริษัทถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้น 

แนวโน้มผลประกอบการที่สดใสของไมครอน เทคโนโลยี ช่วยหนุนหุ้นบริษัทผลิตชิปและบริษัทเทคโนโลยีดีดตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นอินวิเดีย พุ่งขึ้น 2.17% หุ้นเอเอ็มดี ปรับตัวขึ้น 1.6% หุ้นอินเทล ทะยานขึ้น 7.61% หุ้นไอบีเอ็ม บวก0.29% หุ้นไมโครซอฟท์ ดีดขึ้น 1.92% หุ้นแอปเปิ้ล พุ่งขึ้น 1.98% หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ พุ่งขึ้น 2.33%

หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นซิตี้กรุ๊ป พุ่งขึ้น 1.59% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ บวก 0.72% หุ้นเจพีมอร์แกน เพิ่มขึ้น 0.20% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ พุ่งขึ้น 1.6%

นักลงทุนยังคงจับตาแนวทางการใช้กฎระเบียบในภาคธนาคารของสหรัฐหลังจากการล้มละลายของซิลิคอน วัลเลย์แบงก์ (SVB) และซิกเนเจอร์ แบงก์ (SB) โดยสภาคองเกรสได้เรียกตัวเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านการกำกับดูแลภาคธนาคารให้เข้าอธิบายว่าเพราะเหตุใด SVB และ SB จึงล้มละลายในช่วงต้นเดือนมี.โดยนายไมเคิล บาร์ รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟดและเจ้าหน้าที่คนอื่น  ต่างก็มีความเห็นไปในทางเดียวกันว่า การล้มละลายของธนาคารทั้ง 2 แห่งเกิดจากการบริหารงานที่ผิดพลาดของทีมผู้บริหาร และเสนอว่าธนาคารที่มีสินทรัพย์ตั้งแต่ 1 แสนล้านดอลลาร์ขึ้นไปอาจจำเป็นต้องอยู่ภายใต้กฎระเบียบใหม่ที่มีความเข้มงวดมากขึ้น

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐในวันศุกร์นี้