ดาวโจนส์ปิดบวก171จุด ขานรับเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัว

.นักลงทุนเชื่อมั่น ตัวเลขด้านการผลิต-การค้าสหรัฐออกมาดี
.ติดตามรายละเอียดแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมูลค่ากว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์
.เอสแอนด์500ทำสถิติใหม่ปิดที่เหนือระดับ 4,000 จุดเป็นครั้งแรก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 1เม.ย. ที่ 33,153.21 จุด เพิ่มขึ้น 171.66 จุด หรือ +0.52% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,019.87 จุด เพิ่มขึ้น 46.98 จุด หรือ +1.18% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 13,480.11 จุด เพิ่มขึ้น 233.23 จุด หรือ +1.76%

ดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นหลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐดีดตัวสู่ระดับ 64.7 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2526 จากระดับ 60.8 ในเดือนก.พ. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 61.7 ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจกลับมาคึกคักอีกครั้ง

นอกจากนั้น เอชเอส มาร์กิตเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐ เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 59.1 ในเดือนมี.ค. จากระดับ 58.6 ในเดือนก.พ. โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งของคำสั่งซื้อใหม่

ตลาดยังได้แรงหนุนจากการประกาศแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานมูลค่ากว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างงานหลายล้านตำแหน่งของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ทั้งนี้ แผนการดังกล่าวครอบคลุมถึงการอัดฉีดเงินมูลค่า 6.21 แสนล้านดอลลาร์ในโครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง เช่น สะพาน, ถนน, การขนส่งสาธารณะ, ท่าเรือ, ท่าอากาศยาน และการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า อีกทั้งครอบคลุมถึงการลงทุนมูลค่า 5.80 แสนล้านดอลลาร์ในด้านการผลิต, งานวิจัยและพัฒนา และการฝึกฝนอาชีพให้กับชาวอเมริกัน

ดัชนีเอสแอนด์500 ทำสถิติปิดที่เหนือระดับ 4,000 จุดเป็นครั้งแรก โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นบริษัทเทคโนโลยี ซึ่งเป็นหุ้นในกลุ่ม Growth Stock เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่าหุ้นกลุ่มนี้จะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หลังจากรัฐบาลสหรัฐออกมาตรการกระตุ้นครั้งใหญ่

ทั้งนี้ หุ้นอัลฟาเบท ทะยานขึ้น 3.26% หุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 2.79% หุ้นแอมะซอนดอทคอม พุ่งขึ้น 2.16 หุ้นเฟซบุ๊ก เพิ่มขึ้น 1.4% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ พุ่งขึ้น 3.4% หุ้น Nvidia พุ่งขึ้น 3.47%

หุ้นไมครอน เทคโนโลยี ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 4.76% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ในไตรมาส 1/2564 เนื่องจากความต้องการชิปที่สูงขึ้น โดยเฉพาะชิปสำหรับสมาร์ทโฟนระบบ 5G และซอฟต์แวร์ปัญญาประดิษฐ์ (AI)

หุ้นไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟคเจอริง คอมพานี (TSMC) ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก พุ่งขึ้น 5.52% หลังบริษัทประกาศการแผนลงทุนมูลค่า 1 แสนล้านดอลลาร์ในช่วง 3 ปีข้างหน้าเพื่อรองรับความต้องการชิปที่เพิ่มขึ้น โดย TSMC เป็นผู้ผลิตชิปที่มีลูกค้าระดับโลกหลายราย รวมถึง แอปเปิล, ควอลคอมม์, Nvidia และแอดวานซ์ ไมโคร ดีไวซ์

หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้นเกือบ 4% โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 2.8% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ พุ่งขึ้น 1.98%% หุ้นเชฟรอน บวก 0.9% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น 2.14%

อย่างไรก็ตาม กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 719,000 รายในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 27 มี.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 675,000 ราย