ดาวโจนส์ปิดบวก 194.55 จุด นักลงทุนคลายวิตกแบงก์ล้ม

  • ทางการระบุธนาคารเฟิร์สต์ ซิติเซนส์ แบงก์แชร์ส เข้าซื้อกิจการธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์
  • นักลงทุนกลับมาซื้อหุ้นแบงก์คืน หลังดีชนีร่วงแรงในช่วงก่อนหน้า
  • ตลาดจับตาทิศทางเศรษฐกิจ นโยบายดอกเบี้ยธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 27 มี.ค.ที่ 32,432.08 จุด เพิ่มขึ้น 194.55 จุด หรือ +0.60%, ดัชนีS&P500 ปิดที่ 3,977.53 จุด เพิ่มขึ้น 6.54 จุด หรือ +0.16% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 11,768.84 จุด ลดลง55.12 จุด หรือ -0.47%

นักลงทุนกลับมาซื้อหุ้นสะสม หลังบรรษัทค้ำประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FDIC) เปิดเผยว่า ธนาคารเฟิร์สต์ซิติเซนส์ แบงก์แชร์ส (First Citizens BancShares) ตกลงเข้าซื้อกิจการธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) แล้วโดยข้อตกลงดังกล่าวครอบคลุมถึงเงินฝากและเงินกู้ทั้งหมดของ SVB

เหตถการณ์ดังกล่าวทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐคลายกังวลวิกฤตสถาบันการเงิน และเชื่อมั่นในความช่วยเหลือของภาครัฐมาดขึ้นหุ้นกลุ่มธนาคารและธนาคารระดับภูมิภาค พุ่งขึ้น 3.1% และ 0.6% เป็นผลให้ตลาดดีดกลับขึ้นมาอีกครั้ง หลังลดลงแรงในช่วงก่อนหน้า

ทั้งนี้ หุ้นเจพีมอร์แกน พุ่งขึ้น 2.87% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ทะยานขึ้น 4.97% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ดีดขึ้น 1.91%

หุ้นธนาคารเฟิร์สต์ ซิติเซนส์ แบงก์แชร์ส ทะยานขึ้น 7.68% หลังเข้าซื้อกิจการ SVB ขณะที่หุ้นเฟิร์สต์ รีพับลิค แบงก์(FRB) พุ่งขึ้น 11.8% หลังสื่อรายงานว่าทางการสหรัฐกำลังพิจารณาขยายโครงการปล่อยกู้ฉุกเฉิน (Emergency Lending Facility) ให้กับภาคธนาคาร ซึ่งจะช่วยให้ FRB มีเวลามากขึ้นในการเสริมสภาพคล่องในงบดุลของธนาคาร

หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นหลังราคาน้ำมัน WTI ทะยานขึ้นกว่า 3% โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 2.19% หุ้นเชฟรอนบวก 1%

หุ้นเอคเซนเชอร์ (Accenture) ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีและธุรกิจระดับโลก ดีดตัวขึ้น 0.7% หลังบริษัทประกาศปลดพนักงาน 19,000 ตำแหน่งในช่วง 18 เดือนข้างหน้า คิดเป็นสัดส่วน 2.5% ของพนักงานทั่วโลก โดยพนักงานที่จะถูกปลดออกกว่าครึ่งอยู่ในส่วนที่ไม่ได้ติดต่อโดยตรงกับลูกค้า

หุ้นวอลท์ ดิสนีย์ พุ่งขึ้น 1.64% หลังจากนายบ็อบ ไอเกอร์ ซีอีโอของวอลท์ ดิสนีย์เปิดเผยว่า บริษัทจะเริ่มขั้นตอนการปลดพนักงานรวม 7,000 คน โดยการดำเนินการดังกล่าวจะเริ่มตั้งแต่สัปดาห์นี้

อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงและเป็นปัจจัยฉุดดัชนี Nasdaq ปิดในแดนลบ โดยหุ้นแอปเปิ้ล ร่วงลง 1.2% หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ ร่วงลง 1.54% หุ้นอัลฟาเบท ดิ่งลง 2.83%