ดาวโจนส์ปิดบวก 183 จุด คลายกังวลเงินเฟ้อ-เฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย

.มีแรงซื้อหุ้นกลับหลังตลาดหุ้นสหรัฐเจอแรงเทขายลดความเสี่ยงร่วงลงแรงในช่วงก่อนหน้า

.นักลงทุนจับตาการประชุม 3 ธนาคารกลางของโลก เฟด, ECB และ BoE ในสัปดาห์หน้า

. นักวิเคราะห์คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.50% ในการประชุมนโยบายการเงิน 13-14 ธ.ค.นี้ช้านี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 8ธ.ค.ที่ 33,781.48 จุด เพิ่มขึ้น 183.56 จุด หรือ +0.55%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,963.51 จุด เพิ่มขึ้น 29.59 จุด หรือ +0.75% ส่วนดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิสปิดที่ 11,082.00 จุด เพิ่มขึ้น 123.45 จุด หรือ + 1.13%

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 4,000 ราย สู่ระดับ 230,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 230,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.

ส่วนจำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานอย่างต่อเนื่อง เพิ่มขึ้น 62,000 ราย สู่ระดับ 1.67 ล้านราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน

ควินซี ครอสบี นักวิเคราะห์จากบริษัทแอลพีแอล ไฟแนนเชียลกล่าวว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานเป็นปัจจัยขับเคลื่อนตลาด โดยนักลงทุนมองว่าการเพิ่มขึ้นของตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ว่าภาวะเศรษฐกิจและแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในสหรัฐเริ่มคลายความร้อนแรง ซ

ตลาดจับตาการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 13-14 ธ.ค. ซึ่งเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของปีนี้ รวมทั้งถ้อยแถลงของเพื่อส่งสัญญาณทิศทางอัตราดอกเบี้ยในปี 2566 ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) นักวิเคราะห์คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.50% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมรอบนี้ หลังจากปรับขึ้น 0.75% เป็นจำนวน 4 ครั้งติดต่อกัน

ทั้งนี้ ธนาคารกลางชั้นนำของโลก 3 แห่งจะจัดการประชุมนโยบายการเงินในสัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของปีนี้ โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะจัดการประชุมในวันที่ 13-14 ธ.ค. ส่วนธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะจัดการประชุมตรงกันในวันที่ 15 ธ.ค.

นักวิเคราะห์และตลาดการเงินต่างคาดการณ์ว่า เฟด, ECB และ BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.50% ในการประชุมรอบนี้ ซึ่งส่งผลดีต่อบรรยากาศการซื้อขายของตลาดหุ้นสหรัฐ

ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้น 1.6% โดยหุ้นแอปเปิ้ล ปรับตัวขึ้น 1.21% หุ้นแอมะซอน พุ่งขึ้น 2.14% หุ้นอินวิเดีย ทะยานขึ้น 6.51% หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ เพิ่มขึ้น 1.23%

หุ้นไมโครซอฟท์ ดีดตัวขึ้น 1.24% แม้ได้รับแรงกดดันในช่วงแรกจากรายงานข่าวที่ว่า คณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FTC) ได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขัดขวางข้อตกลงที่ไมโครซอฟท์เข้าซื้อกิจการบริษัทแอคติวิชัน บลิซซาร์ด (Activision Blizzard) ซึ่งเป็นผู้ผลิตวิดีโอเกมรายใหญ่ของสหรัฐ โดยให้เหตุผลว่าเป็นการกีดกันคู่แข่งในอุตสาหกรรมวิดีโอเกม

หุ้นโมเดอร์นา พุ่งขึ้น 3.18% และหุ้นไฟเซอร์ พุ่งขึ้น 3.04% หลังจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) อนุมัติการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนสำหรับเด็กทารกที่มีอายุเพียง 6 เดือน

ทั้งนี้ FDA อนุมัติให้เด็กที่มีอายุ 6 เดือนจนถึง 5 ปี ซึ่งได้รับการฉีดวัคซีนของโมเดอร์นา สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ป้องกันไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ส่วนเด็กที่มีอายุ 6 เดือนจนถึง 4 ปี ซึ่งยังไม่ได้เริ่มต้นรับการฉีดวัคซีน 3 เข็มของไฟเซอร์ สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันสายพันธุ์โอมิครอนเป็นเข็มที่ 3