ดาวโจนส์ปิดตลาดลบ 313จุด กังวลดอกเบี้ยขึ้น-ตัวเลขเศรษฐกิจแผ่ว

.นักลงทุนเทขายหุ้น ผิดหวังผลประกอบการ-กังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยกระทบเศรษฐกิจ
.ตลาดจับตาการตัดสินในดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินเฟด วันที่ 25-26 ม.ค.
.ผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งขึ้นสู่ระดับ 286,000 รายสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.64

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 20 ม.ค.ที่ 34,715.39 จุด ลดลง 313.26 จุด หรือ -0.89%, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,482.73 จุด ลดลง 50.03 จุด หรือ -1.10% และดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 14,154.02 จุด ลดลง 186.23 จุด หรือ -1.30%

ตลาดหุ้นสหรัฐฯผันผวนค่อนข้างแรงในการซื้อขายวานนี้ ในช่วงแรกนั้นดัชนีดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นเพื่อเก็งกำไรผลประกอบการ แต่ตลาดร่วงลงในเวลาต่อมา เนื่องจากนักลงทุนได้ส่งคำสั่งขายเข้ามาในช่วงท้าย ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. เพื่อสกัดเงินเฟ้อ

ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐได้ประกาศสนับสนุนให้นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด เริ่มใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงิน และลดมาตรการผ่อนคลายทางการเงินที่เฟดเคยนำมาใช้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจในช่วงที่โรคโควิด-19 แพร่ระบาดอย่างหนัก โดยปธน.ไบเดนมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง และย้ำว่าภารกิจของเฟดคือการควบคุมเงินเฟ้อ โดยการแสดงความเห็นของปธน.ไบเดนครั้งนี้ มีขึ้นในระหว่างการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เนื่องในโอกาสครบรอบ 1 ปีของการดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐ

ตลาดยังถูกกดดันจากราคาหุ้น Peloton Interactive ที่ทรุดตัวลงเกือบ 24% หลังจากสำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า Peloton ระงับการผลิตอุปกรณ์ออกกำลังกายซึ่งรวมถึงเครื่องปั่นจักรยาน เนื่องจากดีมานด์ชะลอตัวลง ทั้งนี้ การร่วงลงอย่างหนักของหุ้น Peloton ส่งผลให้มูลค่าตลาดของบริษัทหายไปเป็นจำนวนมากถึง 2.5 พันล้านดอลลาร์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ สินค้าของบริษัทได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงที่ประชาชนต้องอยู่บ้านเพื่อหลีกเลี่ยงการระบาดของโรคโควิด-19

หุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยร่วงลง 1.94% โดยหุ้นราล์ฟ ลอเรน ร่วงลง 2.79% หุ้นไนกี้ ลดลง 1.64% หุ้นบาธ แอนด์ บอดี้ เวิร์คส์ ดิ่งลง 4.43%

ดัชนีหุ้นกลุ่มวัสดุปรับตัวลง 1.43% นำโดยหุ้นยูเอส สตีล คอร์ป ดิ่งลง 5.75% หุ้นนิวมอนท์ ลดลง 1.71% หุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอแรน ร่วงลง 2%

หุ้นฟอร์ด มอเตอร์ ร่วงลง 3.56% หลังจากนักวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ Jefferies ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นฟอร์ดลงสู่ระดับ “Hold” จากเดิมที่ระดับ “Buy”

หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ ร่วงลง 3.18% หลังบริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุน 1.42 ดอลลาร์/หุ้นในไตรมาส 4/2564 ส่วนหุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ดิ่งลง 3.42% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุน 1.60 ดอลลาร์/หุ้นในไตรมาส 4/2564

ตลาดยังจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 25-26 ม.ค.

ตลาดยังกังวลภาวะเศรษฐกิจ หลังตัวเลขคนว่างงานเริ่มดีดตัวขึ้นอีกครั้ง กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งขึ้นสู่ระดับ 286,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2564 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 225,000 ราย และสูงกว่าตัวเลขที่มีการรายงานสัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 231,000 ราย

ทางด้านสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองดิ่งลง 4.6% สู่ระดับ 6.18 ล้านยูนิตในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน และหากเทียบเป็นรายปี ยอดขายบ้านมือสองลดลง 7.1% ในเดือนธ.ค.

X