ดาวโจนส์ปิดตลาดพุ่ง 558 จุด”ทรัมป์”เตรียม เปิดเศรษฐกิจ 1 พ.ค.

  • ให้พ่อเมืองแต่ละรัฐตัดสินใจเปิดเศรษฐกิจ ภายในวันที่ 1พ.ค.
  • การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีแนวโน้มที่ดีขึ้น
  • นักลงทุนเลือกซื้อหุ้นที่มีข่าวดี เมินผลประกอบการแบงก์ทรุด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 14เม.ย.ที่ 23,949.76 จุด เพิ่มขึ้น 558.99 จุด หรือ +2.39% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,846.06 จุด เพิ่มขึ้น 84.43 จุด หรือ +3.06% ด้านดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 8,515.74 จุด เพิ่มขึ้น 323.32 จุด หรือ +3.95%

ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังมีสัญญาณบ่งชี้ว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เชื่อว่ารัฐบางแห่งของสหรัฐฯจะสามารถยกเลิกมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมที่เข้มงวดได้ภายในวันที่ 1 พ.ค.นี้ หลังจากมาตรการเหล่านี้ได้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจในรัฐต่างๆ

“วันที่จะเปิดเศรษฐกิจได้ใกล้เข้ามาแล้ว ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นก่อนวันที่ 1 พ.ค.ด้วยซ้ำ ผมจะพูดคุยกับบรรดาผู้ว่าการรัฐทั้งหมด 50 รัฐ และจากนั้นผมจะให้อำนาจแก่ผู้ว่าการรัฐเพื่อดำเนินการเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง โดยแต่ละรัฐมีสภาวะที่แตกต่างกัน โดยการดำเนินการจะเป็นไปตามแผนการเปิดเศรษฐกิจของแต่ละรัฐในช่วงเวลาและแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมที่สุด”

ด้านนายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กเปิดเผยว่า นิวยอร์กได้ผ่านช่วงเวลาเลวร้ายมาแล้ว โดยจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทั่วรัฐนิวยอร์กลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด โดยเขาตั้งข้อสังเกตว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ชะลอตัวลงหลังจากรัฐบาลใช้มาตรการล็อกดาวน์

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผลประกอบการบริษัทที่ทยอยประกาศออกมา ธนาคารยักษ์ใหญ่อย่างเจพีมอร์แกน เชส รายงานผลประกอบการออกมาต่ำกว่าที่คาด

โดยธนาคารมีกำไร 0.78 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้นในไตรมาส 1 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.84 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น ส่วนรายได้อยู่ที่ระดับ 2.907 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.967 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยหุ้นเจพีมอร์แกน เชส ดิ่งลง 2.7%

เช่นเดียวกับหุ้นธนาคารเวลส์ ฟาร์โก ร่วงลง 3.98% หลังจากธนาคาเปิดเผยรายได้และกำไรในไตรมาส 1 ที่ต่ำกว่าคาด

ตรงกันข้าม หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) พุ่งขึ้น 4.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรและยอดขายที่สูงเกินคาดในไตรมาส 1 นอกจากนี้ ทางบริษัทยังตั้งเป้าที่จะผลิตวัคซีนต้านเชื้อโควิด-19 จำนวน 600-900 ล้านโดสภายในสิ้นไตรมาสแรกของปีหน้า ถ้าหากการทดลองในมนุษย์สามารถเริ่มต้นในเดือนก.ย.ตามแผนที่วางไว้

หุ้นเทสลา พุ่งขึ้น 9.05% หลังเครดิต สวิส ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นเทสลาเป็น “hold” จากระดับ “sell” พร้อมกับปรับเพิ่มเป้าหมายราคาหุ้นเทสลาขึ้นสู่ระดับ 580 ดอลลาร์

หุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 5.05% จากการคาดการ์วาส ยอดการส่งมอบ iPhone ในประเทศจีนฟื้นตัวขึ้นในเดือนมี.ค. ภายหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มชะลอตัวลง

หุ้นอเมซอน พุ่งขึ้น 5.3% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากความต้องการซื้อสินค้าออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19

ด้านตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยอิกมายังสะท้อนความเปราะบาง กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคานำเข้าดิ่งลง 2.3% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2558 หลังจากร่วงลง 0.7% ในเดือนก.พ. ขณะที่ดัชนีราคาส่งออกดิ่งลง 1.6% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2558 หลังจากลดลง 1.1% ในเดือนก.พ.