ดาวโจนส์ปิดตลาดพุ่ง 527 จุด นักวิเคราะห์คาดเศรษฐกิจสหรัฐผ่านจุดต่ำสุด

  • การจ้างงานของภาคเอกชนลดลง 2.76 ล้านตำแหน่งในเดือนพ.ค.ดีกว่าที่คาด
  • การชุมนุมประท้วงในสหรัฐที่เริ่มเป็นไปอย่างสงบลดความเสี่ยงลงทุน
  • นักลงทุนกลับมาซื้อหุ้น หลังเชื่อมั่นเศรษฐกิจฟื้นหลังคลายล็อกดาวน์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 3มิ.ย.ที่ 26,269.89 จุด เพิ่มขึ้น 527.24 จุด หรือ +2.05% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,122.87 จุด เพิ่มขึ้น 42.05 จุด หรือ +1.36% ส่วนดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 9,682.91 จุด เพิ่มขึ้น 74.54 จุด หรือ +0.78%

นักลงทุนกลับมาซื้อหุ้นเก็งกำไรในหลายกลุ่มจากความหวังที่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มฟื้นตัวหลังจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ โดยตัวเลขการจ้างงานที่ลดลงน้อยกว่าคาด และตัวเลขเครื่องชี้เศรษฐกิจอื่นที่ดีขึ้นกว่าเดือนที่ผ่านมา ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับนักลงทุน นอกจากนี้ การชุมนุมประท้วงในสหรัฐที่เริ่มเป็นไปอย่างสงบ ก็เป็นปัจจัยบวกต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดเช่นกัน

ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐลดลง 2.76 ล้านตำแหน่งในเดือนพ.ค. แต่ยังดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 8.75 ล้านตำแหน่ง และดีกว่าในเดือนเม.ย.ที่ตัวเลขจ้างงานทรุดตัวลง 19.6 ล้านตำแหน่ง ซึ่งเป็นช่วงการจ้างงานที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่มีการบันทึกข้อมูลในปี 2545

ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากรายงานผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ซึ่งระบุว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 45.4 ในเดือนพ.ค. ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับตัวขึ้นแตะระดับ 44.0 หลังจากดิ่งลงแตะ 41.8 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการหดตัวรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2552

นายมาร์ค แซนดี หัวหน้านักวิเคราะห์ของมูดี้ส์ อนาลิติกส์ กล่าวว่า “ตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐในเดือนพ.ค.อาจเป็นการส่งสัญญาณว่าตลาดแรงงานได้ผ่านภาวะย่ำแย่ที่สุดจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไปแล้วยกเว้นเราจะเจอการแพร่ระบาดรอบสอง หรือมีการใช้นโยบายที่ผิดพลาดอย่างรุนแรง

ส่วนข่าวร้ายคือ การฟื้นตัวจะเป็นไปอย่างล่าช้า จนกว่าจะมีการคันพบวัคซีน และยารักษาโควิด-19 ที่จะมีการกระจาย และมีการใช้ในวงกว้าง”

หุ้นกลุ่มธุรกิจเรือสำราญยังคงได้ปัจจัยบวกจากความหวังเศรษฐกิจฟื้นตัว โดยหุ้นรอยัล คาริบเบียน ครูซ พุ่งขึ้น 3.82% หุ้นนอร์เวย์เจียน ครูซ ไลน์ โฮลดิ้ง พุ่งขึ้น 3.45% หุ้นคาร์นิวัล คอร์ป เพิ่มขึ้น 2.25%

หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น โดยหุ้นโบอิ้ง ทะยานขึ้น 12.92% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ บวก 3.07% หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก พุ่งขึ้น 4.47% หุ้น 3M พุ่งขึ้น 2.33% หุ้นยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ พุ่งขึ้น 6.49%

ยังมีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มธนาคาร ตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐดีดตัวขึ้น โดยหุ้นเจพีมอร์แกน เชส พุ่งขึ้น 5.39% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก พุ่งขึ้น 5.22% หุ้นซิตี้กรุ๊ป พุ่งขึ้น 4.9% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 3.16% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 4.6% และหุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ บวก 2.92%

ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานยังคงได้อนานิสงส?จากราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 4.08% หุ้นเชฟรอน เพิ่มขึ้น 2.65% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม พุ่งขึ้น 4.75% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น 3.07%