ดาวโจนส์ปิดตลาดบวก140จุด แรงซื้อหุ้นเทคโนโลยีหนุนตลาด

.นักลงทุนกลับมาซื้อหุ้นเทคโนโลยี หลังนักวิเคราะห์เพิ่มน้ำกนักการลงทุนหุ้นแอมะซอน
.ตลาดกังวลหลายประเทศทั่วโลกกลับมาล็อกดาวน์รอบสอง
.จับตามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ทั้งจากเฟด-รัฐบาลสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 22ก.ย.กลับมาอยู่ในแดนบวก ที่ 27,288.18 จุด เพิ่มขึ้น 140.48 จุด หรือ +0.52% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 10,963.64 จุด เพิ่มขึ้น 184.84 จุด หรือ +1.71% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,315.57 จุด เพิ่มขึ้น 34.51 จุด หรือ +1.05%

ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวผันผวน โดยในช่วงแรกอยู่ในแดนลบ โดยตลาดเผชิญแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการที่หลายประเทศในยุโรปใช้มาตรการล็อกดาวน์ครั้งใหม่เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งความขัดแย้งระหว่างสภาคองเกรสและทำเนียบขาวในการออกมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจรอบใหม่ แต่จากนั้นมีแรงซื้อกลับเข้ามาอีกครั้ง

โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่กลับมาได้รับแรงซื้ออย่างคึกคัก นำโดยหุ้นแอมะซอนดอทคอม พุ่งขึ้น 5.69% หลังจากนักวิเคราะห์ของบริษัทแบร์สเติร์นได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นแอมะซอนดอทคอมสู่ระดับ “outperform” จากระดับ “market perform” ขณะที่หุ้นเฟซบุ๊ก ดีดขึ้น 2.66% หุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 2.41% หุ้นอัลฟาเบท เพิ่มขึ้น 2.08% หุ้นแอปเปิล บวก 1.57%

หุ้นกลุ่มสินค้าผู้บริโภคปรับตัวขึ้นเช่นกัน นำโดยหุ้นโคคา โคล่า พุ่งขึ้น 1.16% หุ้นเป๊ปซี่โค โค บวก 0.69% หุ้นพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (P&G) เพิ่มขึ้น 0.91% หุ้นคิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค บวก 0.79%

หุ้นเทสลา ร่วงลง 5.6% หลังจากอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเทสลา เปิดตัวเทคโนโลยีแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าแบบใหม่ในงาน “Battery Day” โดยมัสก์กล่าวว่าเทคโนโลยีแบบใหม่ที่เปิดเผยในงานนี้จะยังไม่สามารถผลิตได้เป็นจำนวนมากจนกว่าจะถึงปี 2565

หุ้นออราเคิล ปรับตัวลง 0.33% หลังจากหนังสือพิมพ์โกลบอล ไทม์ส ซึ่งเป็นสื่อของพรรคคอมมิวสต์จีนรายงานว่า รัฐบาลจีนไม่มีแนวโน้มที่จะอนุมัติข้อตกลงที่บริษัทไบต์แดนซ์ (ByteDance) ทำร่วมกับออราเคิลและวอลมาร์ทเกี่ยวกับการขายกิจการติ๊กต็อก (TikTok) ในสหรัฐ โดยระบุว่า เงื่อนไขของข้อตกลงดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าสหรัฐต้องการกลั่นแกล้งและทำลายความมั่นคงของจีน

นักลงทุนจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดซึ่งมีกำหนดเข้าให้ข้อมูลต่อคณะอนุกรรมการประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันพุธตามเวลาสหรัฐ และจะเข้าแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐ

โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา นายพาวเวลได้เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเกี่ยวกับการดำเนินการของเฟดและรัฐบาลสหรัฐในการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยกล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่อาจจะต้องใช้เวลาอีกนานกว่าที่จะฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่

ทั้งนี้ นายพาวเวลกล่าวว่า เฟดยังคงมุ่งมั่นที่จะใช้เครื่องมือทั้งหมดที่มีอยู่เพื่อพยุงเศรษฐกิจสหรัฐให้ฟื้นตัวจากผลกระทบของโควิด-19 ที่แพร่ระบาดในขณะนี้ และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า เครื่องมือเหล่านี้จะช่วยให้เศรษฐกิจสามารถฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง และลดความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจ

ขณะที่สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้น 2.4% ในเดือนส.ค. หลังจากพุ่งขึ้น 24.7% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการทะยานขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ที่มีการรวบรวมข้อมูลในปี 2511