ดาวโจนส์ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 100 จุด จำนนเศรษฐกิจไตรมาสแรกชะลอตัว

.ตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้ายจีดีพี ไตรมาส 1/65 เศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 1.6%สูงกว่าคาด
.นักลงทุนติดตามเครื่องชี้เศรษฐกิจ เงินเฟ้อและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
.มีแรงซื้อเข้ามาช้อนซื้อหุ้นที่ราคาลดลงมากในช่วงก่อนหน้าสะสม รอทำกำไร

เมื่อเวลาประมาณ 21.55 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 331,062.31 จุด เพิ่มขึ้น
115.32 จุด หรือ +0.37% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 11,195.27 จุด เพิ่มขึ้น 13.73 จุด หรือ +0.12% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 3,827.00 จุด เพิ่มขึ้น 5.45 จุด หรือ +0.14%

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ แกว่งตัวแคบๆ ซึมซับการฟื้นตัวเศรษฐกิจของสหรัฐที่ชะลอตัวลง โดยนักลงทุนส่วนหนึ่งกลับมาซื้อหุ้น โดยมองว่า การชะลอของเศรษฐกิจจะช่วยลดความร้อนแรงของเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นได้ และส่งผลให้ธนาคารสหรัฐฯ (เฟด) อาจไม่จำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยมาก และเร็วเกินไป

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้ายสำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/65 ในวันนี้ โดยระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 1.6% ติดลบมากกว่าเดิมที่รายงานว่าหดตัวเพียง 1.4% และ 1.5% ในตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 และ 2 ตามลำดับ

นักลงทุนจับตาภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ โดยเศรษฐกิจสหรัฐกลับมาหดตัวอีกครั้งในไตรมาส 1/65 ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกตั้งแต่ปี 2563 ที่ผ่านมาจากวิกฤตโควิด-19 และหากเศรษฐกิจสหรัฐหดตัวต่อไปในไตรมาส 2/65 ก็จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย เนื่องจากมีการหดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน

ตลาดจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมประจำปีของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่จัดขึ้นที่โปรตุเกสในวันนี้

ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้นอีกครั้ง รับการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ที่เริ่มการประชุมกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันในวันนี้ และจะสิ้นสุดการประชุมในวันพรุ่งนี้ โดยแหล่งข่าวระบุว่า ในการประชุมสัปดาห์นี้ โอเปกพลัสจะหารือกันเกี่ยวกับการยืนยันกำลังการผลิตในเดือนส.ค.