.นักลงทุนจับตาเศรษฐกิจโลก กังวลเศรษฐกิจจีนชะลอ
.หุ้นพลังงานดิ่งกดดันตลาด ตามราคาน้ำมันดิบโลกลด
.คาดเฟด แอตแลนตา เผย เศรษฐกิจสหรัฐกลับมาขยายตัว 2.5% ในไตรมาส 3
เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 33,715.48 จุด เพิ่มขึ้น
45.57 จุด หรือ -0.13% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 13,017.30 จุด ลดลง 29.89 จุด หรือ -0.23% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหว 4,268.53 จุด ลดลง 11.62 จุด
ตลาดหุ้นสหรัฐยังอยู่ในภาวะผันผวน นักลงทุนกังวลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน หลังเปิดเผยตัวเลขยอดค้าปลีกและการผลิตในภาคอุตสาหกรรมที่ต่ำกว่าคาด ขณะที่ภาคอสังหาริมทรัพย์ประสบปัญหาสภาพคล่อง
ขณะที่สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านลดลง 6 จุด สู่ระดับ 49 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8
อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.5% ในไตรมาส 3 ซึ่งตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวสูงกว่าระดับ 1.4% ที่มีการระบุก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ เฟดสาขาแอตแลนตาจะรายงานตัวเลขคาดการณ์ GDPNow ครั้งใหม่ในวันที่ 16 ส.ค.
ทั้งนี้ หุ้นของบริษัทไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ดิ่งลงเกือบ 1% หลังประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทเปิดเผยว่าติดเชื้อโควิด-19 โดยนายอัลเบิร์ต เบอร์ลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตยาและวัคซีนต้านโควิด-19 รายใหญ่ของโลก เปิดเผยในวันนี้ว่า เขามีผลตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นบวก และขณะนี้มีอาการป่วยเล็กน้อย
นอกจากนั้น หุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลง ตามการทรุดตัวของราคาน้ำมันในตลาดโลก โดยล่าสุด ราคาสัญญาน้ำมัน WTI ใกล้หลุดระดับ 87 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ใกล้หลุด 93 ดอลลาร์ โดยถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอของจีน
ขณะที่ตลาดจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ผลกระทบจากเงินเฟ้อต่อกำไรของบริษัท
