.นักลงทุนซื้อหุ้นต่อเนื่อง ดันดัชนีดาวโจนส์ทดสอบระดับ 30,000 จุดอีกครั้ง
.มีความหวังออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการออกกฎหมายงบประมาณได้ภายใน 11 ธ.ค
.การจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาด แต่การจ้างงานและรายได้ปรับดีขึ้น
เมื่อเวลา 22.10 น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวทะลุ 30,000 จุด ที่ระดับ 30,068.87
เพิ่มขึ้น 99.35 จุด หรือ +0.33% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 12,422.68 จุด เพิ่มขึ้น 45.50 จุด หรือ +0.37%
ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 3,683.84 จุด เพิ่มขึ้น 17.12 จุด +0.47%
ความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ หนุนดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐเพิ่มขึ้นในแดนบวก โดยนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และนายมิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา ได้หารือกันเมื่อวานนี้ เกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐเพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งการออกกฎหมายงบประมาณเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานรัฐบาล (ชัตดาวน์)
ทั้งนางเพโลซีและนายแมคคอนเนลล์ต่างแสดงความหวังว่าสภาคองเกรสจะสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการออกกฎหมายงบประมาณได้ภายในวันที่ 11 ธ.ค.ซึ่งเป็นวันสุดท้ายก่อนที่หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐจะเผชิญภาวะชัตดาวน์
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขการจ้างงานยังออกมาไม่ดีนัก แต่ภาพรวมการว่างงานอยู่ในทิศทางที่ดีขึ้น โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 245,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 440,000 ตำแหน่ง และต่ำกว่าระดับ 610,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งนี้ หากลงในรายละเอียด ภาคเอกชนยีงมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 344,000 ตำแหน่ง ขณะที่ภาครัฐจ้างงานลดลง 99,000 ตำแหน่ง
นอกจากนั้น ตัวเลขอัตราการว่างงานอยู่ในทิศทางที่ดี โดยลดลงสู่ระดับ 6.7% ในเดือนพ.ย. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากแตะระดับ 6.9% ในเดือนต.ค. นอกจากนั้น ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน ยังเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ด้านสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 46 ดอลลาร์วันนี้ หลังจากที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส สามารถบรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน หนุนหุ้นพลังงานให้ปรับตัวเพิ่มขึ้น
