ดาวโจนส์ปรับขึ้น 91.35 จุด คาดดอกเบี้ยชะลอ-เศรษฐกิจฟื้นช้า

  • นักลงทุนคาดธนาคารกลางสหรัฐฯ เริ่มชะลอการขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด
  • เครื่องชี้เศรษฐกิจทั้งการใช้จ่าย และตลาดแรงงานลดความร้อนแรงลงต่อเนื่อง
  • ตลาดจับตาการประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารพาณิชย์

เมื่อเวลาประมาณ 21.45 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 33,737.85 จุด เพิ่มขึ้น 91.35 จุด หรือ +0.27% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 12,073.09 จุด เพิ่มขึ้น 143.75 จุด หรือ +1.21% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 4,115.20 จุด เพิ่มขึ้น 23.25 จุด หรือ +0.57%

ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯเคลื่อนไหวในแดนบวก หลังสหรัฐฯเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ต่ำกว่าคาดและตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินคาด ทำให้นักลงทุนเก็งว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนี PPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ประจำเดือนมี.ค.ในวันนี้ โดยดัชนี PPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 2.7% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยชะลอตัวจากระดับ 4.9% ในเดือนก.พ.

ขณะเดียวกัน ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 239,000 รายในสัปดาห์ที่แล้วซึ่งสิ้นสุดวันที่ 8 เม.ย. เพิ่มขึ้นจากระดับ 228,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งปรับตัวขึ้นสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 232,000 ราย อันเป็นสัญญาณว่าตลาดแรงงานเริ่มอ่อนแรงลง

นอกจากนั้น รายงานการประชุมเฟดเดือนมี.ค. ยังแสดงถึงความกังวลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯในอนาคต โดยผู้กำหนดนโยบายของเฟดหลายรายพิจารณาถึงการระงับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากคาดการณ์ว่า ปัญหาในภาคธนาคารจะทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย

นักลงทุนจับตาบริษัทจดทะเบียนของสหรัฐฯที่จะเริ่มรายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้ โดยธนาคารขนาดใหญ่ ได้แก่ เจพีมอร์แกน เชส, ซิตี้กรุ๊ป และเวลส์ ฟาร์โกจะรายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 1/2566 ในวันศุกร์

ข้อมูลจาก Refinitiv IBES ระบุว่า นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า บริษัทในดัชนี S&P 500 จะรายงานตัวเลขกำไรลดลง 5.2% ในไตรมาส 1/2566 หลังจากคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะมีกำไรเพิ่มขึ้น 1.4% ในไตรมาสดังกล่าว