ดาวโจนส์ปรับขึ้นกว่า 500 จุด ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่ง

.นักลงทุนกลับมาซื้อหุ้น หลังตัวเลขเศรษฐกิจออกมาแข็งแกร่ง
.ประเมินเศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว 6.9% ในไตรมาส 4 สูงกว่านักวิเคราะห์คาด
.ตลาดแรงงานยังดีต่อเนื่อง ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 30,000 รายต่ำกว่าคาด

เมื่อเวลาประมาณ 21.55 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 34,691.93 จุด พุ่งขึ้น 523.84 จุดหรือ +1.53% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ระดับ 13,735.66 จุด เพิ่มขึ้น 193.54 จุด หรือ +1.43%
ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 4,421.25 จุด ลดลง 71.32 จุด ลดลง +1.64%

นักลงทุนกลับมาซื้อหุ้น หลังรับรู้ความเสี่ยงจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น หลังธนาคารกลางสหรัฐ ส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาแข็งแกร่ง ช่วยหนุนดัชนีให้พุ่งขึ้นแรง

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/64 วันนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว 6.9% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 5.5% โดยได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค รวมทั้งการที่ภาคธุรกิจเพิ่มเติมสต็อกสินค้าคงคลัง

ก่อนหน้านี้ เศรษฐกิจสหรัฐเติบโต 6.3% ในไตรมาส 1 และ 6.7% ในไตรมาส 2 ก่อนที่จะชะลอตัวสู่ 2.3% ในไตรมาส 3 เนื่องจากการขาดแคลนวัตถุดิบในภาคการผลิต ซึ่งกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน ทำให้ยอดขายรถยนต์ และตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภคลดลง

เมื่อพิจารณาทั้งปี 2564 เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว 5.7% ซึ่งเป็นตัวเลขสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2527 หลังจากที่หดตัว 3.4% ในปี 2563 ซึ่งเป็นการหดตัวรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2489 โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 30,000 ราย สู่ระดับ 260,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 270,000 ราย

บริษัทแมคโดนัลด์ คอร์ป รายงานตัวเลขกำไรและรายได้ประจำไตรมาส 4/64 ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยได้รับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น โดยแมคโดนัลด์เปิดเผยว่า ทางบริษัทมีกำไร 2.23 ดอลลาร์/หุ้น และมีบริษัทมีรายได้ที่ระดับ 6.01 พันล้านดอลลาร์