ดาวโจนส์บวกเล็กน้อยกว่า 50 จุด ตลาดผันผวนรอเฟดเคาะขึ้นดอกเบี้ย

Business team investment trading do this deal on a stock exchange. People working in the office.

.ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ จับตาการประชุมคณะกรรมการนโยายการเงินเฟด 22 ก.ย.นี้
.ตลาดคาดเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75-1% ท่ามกลางความกังวลเศรษฐกิจอาจถดถอย
.ช้อปปี้ (Shopee) ปลดพนักงาน ดัน ราคาหุ้นของบริษัท Sea ร่วง

เมื่อเวลาประมาณ 21.55 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 30,875.41 จุด เพิ่มขึ้น
52.99 จุด หรือ +0.17% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 11,450.76 จุด เพิ่มขึ้น 2.36 จุด หรือ +0.02% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 3,876.43 จุด เพิ่มขึ้น 3.10 จุด หรือ +0.08%

การซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐฯยังคงผันผวน ทั้งในแดนลบและแดนบวก ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯดีดตัวขึ้นต่อเนื่อง ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ ฯ (เฟด)จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75-1.00% ในการประชุมนโยบายการเงินในสัปดาห์นี้

ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ซึ่งมีความอ่อนไหวต่อนโยบายการเงินของเฟด พุ่งขึ้นเหนือระดับ 3.9% แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2550 ในวันนี้ และอยู่สูงกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีและ 30 ปี ส่งผลให้ตลาดพันธบัตรสหรัฐเกิดภาวะ inverted yield curve ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณเศรษฐกิจถดถอย

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 82% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.00-3.25% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และให้น้ำหนัก 18% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% โดยหากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในเดือนก.ย. ก็จะส่งผลให้เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 3 หลังจากปรับขึ้น 0.75% ทั้งในเดือนมิ.ย.และก.ค. และหากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% ก็จะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 40 ปี

ราคาหุ้นของบริษัท Sea ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีของสิงคโปร์ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก ร่วงลงกว่า 1% ในวันนี้ หลังบริษัทประกาศปลดพนักงานในบริษัทช้อปปี้ (Shopee) ซึ่งเป็นบริษัทอีคอมเมิร์ซในเครือ โดยเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการปรับลดค่าใช้จ่าย ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงกับบริษัทอาลีบาบา กรุ๊ป

ทั้งนี้ การประกาศปลดพนักงานในสิงคโปร์และอินโดนีเซีย 3% ในวันนี้มีขึ้น หลังจากช้อปปี้ได้ประกาศถอนตัวออกจากตลาดยุโรปและลาตินอเมริกาก่อนหน้านี้ รวมทั้งจากอินเดีย เนื่องจากถูกรัฐบาลอินเดียประกาศห้ามการดำเนินธุรกิจในประเทศ ท่ามกลางความขัดแย้งกับบริษัทจีน