ดาวโจนส์บวกกว่า 75 จุด จับตารายการประชุมเฟด

. นักลงทุนจับตารายงานการประชุมประจำเดือนพ.ค.ของเฟดคืนนี้
.ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนเม.ย.
.มีแรงช้อนซื้อเข้ามาในหุ้นหลายกลุ่ม ซึ่งราคาต่ำลงมากในช่วงก่อนหน้า

เมื่อเวลาประมาณ 22.10 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 32,004.39 จุด เพิ่มขึ้น
75.77 จุด หรือ +0.24% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 11,373.49 จุด เพิ่มขึ้น 109.04 จุด +0.97% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500เคลื่อนไหวที่ระดับ 3,964.56 จุด เพิ่มขึ้น 23.08 จุด หรือ +0.59%

มีแรงช้อนซื้อหุ้นหลังมองว่า ตลาดลดลงแรงมากแล้วในช่วงก่อนหน้า นักลงทุนจับตารายงานการประชุมประจำเดือนพ.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้ เพื่อหาทิศทางอัตราดอกเบี้ยและการปรับลดขนาดงบดุล (Quantitative Tightening : QT) ของเฟด

ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก 100% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.50% ในการประชุมนโยบายการเงินอีก 2 ครั้ง ทั้งในเดือนมิ.ย.และก.ค. หลังจากที่เฟดเพิ่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนพ.ค. เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2543 และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 20 ปี

ขณะเดียวกัน เฟดเตรียมปรับลดขนาดงบดุล โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนมิ.ย. ซึ่งเฟดจะลดขนาดงบดุลในวงเงิน 4.75 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน และหลังจากนั้น 3 เดือน เฟดจะเพิ่มการลดขนาดงบดุลเป็น 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน

ด้านตัวเลขเศรษฐกิจยังอยู่ในทิศทางชะลอตัว กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนเม.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนมี.ค. โดยได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อเครื่องบิน

ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน ซึ่งเป็นคำสั่งซื้อสินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบิน และสินค้าด้านอาวุธ โดยเป็นสิ่งบ่งชี้แผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนเม.ย. แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.5% หลังจากพุ่งขึ้น 1.1% ในเดือนมี.ค.