ดาวโจนส์บวกกว่า 50 จุด รอดูมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ-ผลประกอบการ-เฟด 

  • นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนบริษัทขนาดใหญ่
  • ตลาดติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐ หวั่นออกล่าช้าเศรษฐกิจไม่ฟื้น
  • รอการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หวังมีมาตรการกระตุ้นเพิ่ม

เมื่อเวลา 22.10 น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 31,017.82 จุด เพิ่มขึ้น 57.82 จุด หรือ +0.19% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 13,642.90 จุด เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 6.91 จุด หรือ +0.05% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 3,854.52 จุด ลดลง 0.84 จุด หรือ -0.02%

ตลาดหุ้นสหรัฐแกว่งตัวแคบๆ ในแดนบวกลบ นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้ โดยบริษัทขนาดใหญ่ในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทที่จะรายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ได้แก่ แอปเปิล, ไมโครซอฟท์, โบอิ้ง, เน็ตฟลิกซ์ และเทสลา

ข้อมูลระบุว่า ในบรรดาบริษัทในดัชนี S&P 500 ที่มีการรายงานผลประกอบการในไตรมาส 4/63 แล้ว มีจำนวน 73% ที่รายงานตัวเลขรายได้และกำไรสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้

นอกจากนั้น ความล่าช้าในการออกมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ ซึ่งมาจากประธานาธิบดีโจ ไบเดนอาจจะต้องปรับลดวงเงินในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้สามารถผ่านการอนุมัติจากสภาคองเกรส หลังจากสมาชิกรัฐสภาหลายรายทั้งจากพรรครีพับลิกันและเดโมแครตต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ และตั้งข้อสงสัยถึงความจำเป็นของการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ดังกล่าว ยังมีส่วนกดดันตลาด

อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการของบริษัทที่ทยอยประกาศออกมาอยู่ในเกณฑ์ดี โดยบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไรและรายได้ในไตรมาส 4/2563 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยคาดการณ์ว่า J&J จะเปิดเผยผลการทดลองวัคซีนโควิด-19 ในสัปดาห์นี้ หลังจากที่ได้ทำการทดลองวัคซีนในระยะที่ 3 กับอาสาสมัครจำนวน 45,000 คน

นักลงทุนจับตามการประชุมนโยบายการเงิน ของเฟดในวันที่ 26-27 ม.ค. โดยนักวิเคราะห์คาดว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25% ขณะที่ตลาดจับตาดูว่าเฟดจะยังคงซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในวงเงิน 1.2 แสนล้านดอลลาร์/เดือนหรือไม่ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ