ดาวโจนส์ติดลบ 396 จุด เจอแรงเทขายทำกำไร – ลดความเสี่ยงกังวลโควิด-19รอบสอง

  • นักลงทุนยังกังวลแพร่ระบาดโควิด-19 รุนแรงขึ้นหลังการคลายล็อกดาวน์
  • เฟดชี้โควิด-19 พุ่งส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ
  • ตลาดปรับลงแรง หลังไมค์ เพนซ์ ระบุจำกัดวงเงินงบเยียวยาเศรษฐกิจแค่ 1ล้านล้านดอลลาร์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 7ก.ค.ที่ 25,890.18 จุด ลดลง 396.85 จุด หรือ -1.51% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,145.32 จุด ลดลง 34.40 จุด หรือ -1.08% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 10,343.89 จุด ลดลง 89.76 จุด หรือ -0.86%

นักลงทุนเทขายทำกำไรและลดความเสี่ยงลงหลังจากตลาดปรับขึ้นมาระยะหนึ่ง โดยยังมีความกังวลต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังการคลายล็อกดาวน์ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวจากช่วงก่อนหน้า โดยสหรัฐยังคงติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต โดยมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทะลุ 3 ล้านราย

16 รัฐในสหรัฐได้รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่สูงเป็นประวัติการณ์ในช่วงวันที่ 1-5 ก.ค. ขณะที่รัฐฟลอริดาได้ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์บางส่วนอีกครั้ง เพื่อสกัดการแพร่ระบาดดังกล่าว ขณะที่รัฐแอริโซา แคลิฟอร์เนีย เท็กซัส และรัฐอื่นๆของสหรัฐต่างก็แสดงความกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในโรงพยาบาลที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากการที่นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐเปิดเผยกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต้องการให้สภาคองเกรสจำกัดวงเงินในมาตรการเยียวยาผลกระทบโควิด-19 รอบใหม่เอาไว้ที่ 1 ล้านล้านดอลลาร์ หรือน้อยกว่านั้น

นักวิเคราะห์จากบริษัทบีเอ็มโอ โกลบอล แอสเซท แมเนจเมนท์ กล่าวว่า คำให้สัมภาษณ์ของนายเพนซ์ส่งผลให้ตลาดอ่อนแรงลงเมื่อคืนนี้ และสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่า นโยบายของรัฐบาลเป็นปัจจัยขับเคลื่อนตลาด

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากนางแมรี ดาลีย์ ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก และนายโธมัส บาร์กิน ประธานเฟดสาขาริชมอนด์ ให้ควาทเห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความเปราะบางสูง โดยแม้อัตราว่างงานของสหรัฐปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 11.1% ในเดือนมิ.ย. แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับที่สูงมาก และเฟดยังคงต้องดำเนินการเพื่อทำให้อัตราว่างงานปรับตัวลดลงอีก ขณะที่นายราฟาเอล บอสติค ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา เตือนว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 อาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม ความคืบหน้าของการผลิตวัคซีน หุ้นโนวาแวกซ์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตวัคซีนรายใหญ่ของสหรัฐ ทะยานขึ้น 31.62% หลังรัฐบาลสหรัฐประกาศให้เงินทุนแก่บริษัทจำนวน 1,600 ล้านดอลลาร์ หรือราว 50,000 ล้านบาท เพื่อทำการทดสอบและผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ โดยมีเป้าหมายที่จะผลิตวัคซีนให้ได้ 100 ล้านโดสภายในเดือนม.ค.ปีหน้า

หุ้น Tripadvisor ร่วงลง 5.18% หลังบริษัทประกาศแผนการออกหุ้นกู้วงเงิน 500 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมีกำหนดไถ่ถอนในปี 2568

หุ้นวอลมาร์ท พุ่งขึ้น 6.78% หลังมีรายงานข่าว วอลมาร์ทใกล้เปิดตัวโครงการสมาชิกของวอลมาร์ท โดยมีเป้าหมายที่จะแข่งขันโดยตรงกับบริการสมาชิก Prime ของอเมซอน ขณะที่ข่าวดังกล่าวฉุดหุ้นอเมซอนปรับตัวลง 1.86%

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน เพิ่มขึ้น 401,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 5.4 ล้านตำแหน่งในเดือนพ.ค. ขณะที่อัตราการเปิดรับสมัครงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.9% จากระดับ 3.7% ในเดือนเม.ย.