ดาวโจนส์ดิ่งใกล้ 700 จุด กังวลโควิดรอบใหม่-ส่อล็อกดาวน์ ทั่วโลก

.นักลงทุนเทขายหุ้นเป็นวันที่ 3 หลังจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ในสหรัฐทะยานกว่า 9 ล้านคน
.ตลาดหมดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ เกิดขึ้นก่อนเลือกตั้ง 3 พ.ย.
.รัฐบาลทั่วโลกส่อใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกรอบหากโควิดกลับมาระบาดหนัก

เมื่อเวลา 21.25 น.ตามเวลาประเทศไทย ตลาดหุ้นสหรัฐเคลื่อนไหวร่วงลงแรงเป็นวันที่ 3 ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ หลุด 27,000 จุด เคลื่อนไหวที่ 26,775.72 จุด ลดลง 687.47 จุดหรือ -2.50% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 11,099.86 จุด ลดลง 331.50 จุด หรือ -2.90% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 3,299.12 จุด ลดลง 91.56 จุด หรือ -2.70%

นักลงทุนเทขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยง หลังวิตกที่ว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่พุ่งสูงขึ้นในสหรัฐ และยุโรป จะทำให้ประเทศต่างๆประกาศมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก

นอกจากนี้ ตลาดยังมีความกังวลต่อความล่าช้าของการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า สภาคองเกรสสหรัฐจะไม่สามารถออกกฎหมายว่าด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐได้ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พ.ย.

ขณะที่ทำเนียบขาวส่งสัญญาณเช่นกันว่า รัฐบาลสหรัฐและพรรคเดโมแครตอาจไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ก่อนวันเลือกตั้งประธานาธิบดี

ดัชนีความผันผวน CBOE หรือ CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาด พุ่งขึ้นเหนือระดับ 37 จุดในวันนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 ก.ย.

นักลงทุนยังคงจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยหุ้นบริษัทไมโครซอฟท์ คอร์ป ดิ่งลงในการซื้อขายวันนี้ แม้เปิดเผยผลประกอบการที่ดีกว่าคาด หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจสหรัฐ เช่น สายการบิน และธุรกิจเรือสำราญ ต่างก็ปรับตัวลงในวันนี้

ขณะเดียวกัน จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิตในสหรัฐฯยังสูงที่สุดในโลก โดยมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 9 ล้านราย และเสียชีวิตกว่า 232,000 ราย กดดันบรรยากาศซื้อขายในตลาดรุนแรง โดยผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เฉลี่ยต่อวันในสหรัฐอยู่ที่ระดับ 71,832 รายในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นมากกว่า 5% ใน 36 รัฐ

ทั้งนี้ รัฐบาลเยอรมนีและฝรั่งเศสเตรียมประกาศยกระดับการคุมเข้มมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในวันนี้ หลังพบว่าอัตราผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทั่วยุโรปพุ่งขึ้นเกือบ 40% ภายในเวลา 1 สัปดาห์

องค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในยุโรปมากกว่า 1.3 ล้านรายในช่วง 7 วันที่ผ่านมา โดยมีจำนวนเกือบครึ่งหนึ่งของตัวเลข 2.9 ล้านรายทั่วโลก และมีผู้เสียชีวิตกว่า 11,700 ราย ซึ่งพุ่งขึ้น 37% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ขณะนี้ ทั่วโลกติดเชื้อโควิดมากกว่า 44.3 ล้านราย และเสียชีวิตมากกว่า 1.1 ล้านราย

ทั้งนี้ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ทวีความรุนแรงและรวดเร็วขึ้น โดยทั่วโลกติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 10 ล้านรายภายในเวลา 3 เดือน และสู่ระดับ 20 ล้านรายภายใน 44 วัน, 30 ล้านรายภายใน 38 วัน และ 40 ล้านรายภายในเวลาเพียง 32 วัน