ดาวโจนส์ปิดลบ 55 จุด พักฐานรอดูการฟื้นตัวเศรษฐกิจ

  • จบดีล! เฟดไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย ทำดัชนีดาวโจนส์พักฐานไร้ปัจจัยใหม่หนุนต่อ
  • นักลงทุนซื้อหุ้นเทคโนโลยี ได้รับผลดีจากดอกเบี้ยต่ำ
  • ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย เดือนก.ค.ลดลง 1.8% ต่ำกว่าที่คาด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 30 ส.ค.ที่ 35,399.84 จุด ลดลง 55.96 จุด หรือ -0.16% ดัชนีเอวแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,528.79 จุด เพิ่มขึ้น 19.42 จุด หรือ +0.43% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 15,265.89 จุด เพิ่มขึ้น 136.39 จุด หรือ +0.90%

นักลงทุนขายหุ้นทำกำไรในส่วนของดัชนีดาวโจนส์ หลังจากหมดปัจจัยบวกจากการตัดสินใจในยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขณะที่ซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ส่งผลให้ดัชนีเอสแอนด์พี 500 และแนสแด็ก ปิดทำนิวไฮ เนื่องจากนักลงทุนมองว่าบริษัทเทคโนโลยีจะได้ประโยชน์จากการที่เฟดยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำ

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นกว่า 1% ทั้งนี้ หุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 3.04% หุ้นไมโครซอฟท์ บวก 1.29% หุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 2.15% หุ้นอัลฟาเบท บวก 0.41% หุ้นแอมะซอน พุ่งขึ้น 2.15% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ บวก 1.3%

ดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารดิ่งลง 1.47% หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 1.287% เมื่อคืนนี้ ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการทำกำไรของภาคธนาคารในสภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำ โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ลดลง 1.45% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ร่วงลง 1.95% หุ้นเจพีมอร์แกน ร่วงลง 1.6% หุ้นซิตี้กรุ๊ป ร่วงลง 1.81% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก ดิ่งลง 2.81%

ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง 1.16% หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ชะลอตัวลงจากรายงานที่ว่าพายุเฮอริเคนไอดาเริ่มอ่อนกำลังลง หลังจากพัดถล่มอ่าวเม็กซิโกในช่วงสุดสัปดาห์ โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 1.09% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ร่วงลง 1.6% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ร่วงลง 1.9% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ลดลง 0.95% หุ้นเชฟรอน ปรับตัวลง 0.25%

หุ้นโมเดอร์นา ร่วงลง 3.02% หลังญี่ปุ่นระงับการฉีดวัคซีนของบริษัทโมเดอร์นาเพิ่มอีก 1 ล้านโดส หลังจากพบสารปนเปื้อนเพิ่มอีกในวัคซีนล็อตอื่นๆ และมีรายงานผู้เสียชีวิต 2 รายหลังฉีดวัคซีนล็อตที่มีปัญหา

ด้านตัวเลขเศรษฐกิจที่ประกาศออกมาล่าสุด สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ลดลง 1.8% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน โดยดัชนีถูกกดดันจากสต็อกบ้านในระดับต่ำ ขณะที่ราคาบ้านพุ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์

นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 750,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 5.2%