ดัชนีดาวโจนส์ ปรับเพิ่มขึ้น 92 จุด มองเศรษฐกิจสหรัฐไม่แย่

  • ประธานเฟดย้ำชัดเศรษฐกิจดี ไม่ต้องลดดอกเบี้ยเพิ่ม
  • อัตราเงินเฟ้อ ต.ค.เด้งสูงกว่านักวิเคราะห์คาดไว้
  • จับตาข้อตกลงการค้าจีน-สหรัฐ ไม่ลงตัว

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดตลาดวันที่ 13 พ.ย.เพิ่มขึ้น 92.10 จุด หรือ 0.33% ปิดที่ 27,783.59 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 2.20 จุด หรือ 0.07% ปิดที่ 3,094.04 จุด และดัชนีแนสแด็ก ลดลง 3.99 จุด หรือ 0.05 % ปิดที่ 8,482.10 จุด

โดยนักลงทุนเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะมีทิศทางที่ดีต่อไป หลังแถลงการณ์ของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า เฟดไม่มีแนวโน้มที่จะปรับอัตราดอกเบี้ยในระยะนี้ ตราบใดที่เศรษฐกิจสหรัฐน ยังคงดำเนินไปตามแนวทางปัจจุบัน
แถลงการณ์ ยังระบุว่า การที่เฟดใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้นในปีนี้ ช่วยหนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐได้อย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนต.ค.ออกมาสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาด โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไปเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค. หลังจากทรงตัวในเดือน ก.ย. การดีดตัวของดัชนี CPI ทั่วไปได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาพลังงาน, อาหาร และค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาสุขภาพ

ทั้งนี้ เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI ทั่วไปเพิ่มขึ้น 1.8% ในเดือนต.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 1.7% ในเดือนก.ย. สูงกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนี CPI ทั่วไปจะเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน และเพิ่มขึ้น 1.7% เมื่อเทียบรายปี

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงวิตกข้อตกลงการค้าฉบับใหม่ระหว่างจีนและสหรัฐที่ออกมา เนื่องจากยังมีความเห็นที่ไม่ชัดเจนของทั้งสองฝ่าย ในการยกเลิกการปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าระหว่างกันทีรดำเนินการมาในช้วงก่อนหน้า