ดัชนีดาวโจนส์วันสุดท้ายสัปดาห์เปิด ในแดนบวกมีลุ้นสหรัฐ-จีนตกลงการค้า กันได้

  • นักลงทุนหวังจีนยอมซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯเพิ่ม
  • ขณะที่รอดูทิศทางดอกเบี้ยที่ชัดเจนขึ้นในช่วงต่อไปของเฟด
  • ราคาน้ำมันพุ่งต่อ รับความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง

เมื่อเวลาประมาณ 21.55 น.ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ตลาดในแดนบวก เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 27,156.65 จุด บวกเพิ่มขึ้น 61.86 จุด หรือ +0.23% โดยจะต้องรอดูว่า จะสามารถบวกได้ทั้งวันและปิดตลาดในสัปดาห์นี้ในแดนบวกหรือไม่ ขณะที่ ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิท เคลื่อนไหวอยู่ที่ 8,181.52 จุดลดลงเล็กน้อย 1.36 จุดหรือ -0.02% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ 3,011.16 จุด บวก 4.37 จุด หรือ +0.14%

นักลงทุนรอความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยเจ้าหน้าที่ระดับรัฐมนตรีช่วยของสหรัฐและจีนจะทำการเจรจาการค้าที่กรุงวอชิงตันในวันนี้ หลังการเจรจารอบแรกวานนี้ และหลังเสร็จสิ้นการเจรจาการค้าในสัปดาห์นี้ รัฐมนตรีช่วยเกษตรของจีน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคณะเจรจาจะเดินทางไปยังเมืองบอสแมน รัฐมอนทานา และเมืองโอมาฮา รัฐเนบราสกา เพื่อพบปะกับเกษตรกรสหรัฐที่ได้รับความเดือดร้อนจากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

โดยคาดว่าจะช่วยสร้างบรรยากาศที่เป็นมิตรระหว่างทั้งสองฝ่ายได้เพิ่มขึ้น โดยนักลงทุนคาดหวังว่า การเจรจาในระดับเจ้าหน้าที่จะเป็นไปไดด้วยดี และนำไปสู่การประชุมระดับรัฐมนตรีในเดือนต.ค.ที่จะถึงนี้

นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของเจ้าหน้าที่ระดับสูง ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ รวมทั้งทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในปีนี้ หลังจากที่รายงานของเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณชัดเจนในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่อในปีนี้ และปี 2020 อย่างไรก็ตาม เฟดได้ใส่สภาพคล่องเพิ่มเข้าไปในตลาดในสัปดาห์นี้

นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า เขาไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเพียง 0.25% โดยไม่คิดว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวมากเพียงพอ “ในมุมมองของผม การปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 1.50%-1.75% น่าจะเป็นการดำเนินการที่เหมาะสมกว่า”

ขณะที่ ราคาน้ำมันดิบยังคงพุ่งขึ้นต่อเนื่อง ราคาน้ำมันมีแนวโน้มทะยานขึ้นมากกว่า 7% ในสัปดาห์นี้ ทำสถิติพุ่งขึ้นมากที่สุดในรอบหลายเดือนเมื่อเทียบรายสัปดาห์ ท่ามกลางความตึงเครียดในตะวันออกกลาง โดยกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยซาอุดีอาระเบียได้เริ่มปฏิบัติการทางทหารทางตอนเหนือของเยเมน ขณะที่สหรัฐจับมือกับประเทศในตะวันออกกลางและยุโรปเพื่อสร้างกลุ่มพันธมิตรในการป้องกันภัยคุกคามจากอิหร่าน หลังเกิดเหตุโจมตีแหล่งผลิตน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย