ดัชนีดาวโจนส์ลดลงเล็กน้อย 23 จุด กังวลเงินเฟ้อ – เศรษฐกิจฟื้นเร็วเกินไป

.ข้อมูลด้านเศรษฐกิจและตลาดแรงงานแข็งแกร่งต่อเนื่อง
.หุ้นกลุ่มที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ปรับตัวขึ้น
.นักลงทุนกลับมากังวลเงินเฟ้ออีกครั้ง หลังเศรฐกิจฟื้นเร็วกว่าคาด กดดันตลาดปิดลบ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 3มิ.ย.ที่ 34,577.04 จุด ลดลง 23.34 จุด หรือ -0.07% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,192.85 จุด ลดลง 15.27 จุด หรือ -0.36% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 13,614.51 จุด ลดลง 141.82 จุด หรือ -1.03%

นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เช่นหุ้นกลุ่มพลังงานและหุ้นกลุ่มธนาคาร โดยหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น 1.44% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ดีดขึ้น 0.38% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ บวก 0.81% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 1.38% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา บวก 0.7% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ เพิ่มขึ้น 0.64%

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนกลับมามีความวิตกกังวลอีกครั้งเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อที่จะสูงขึ้น และอาจผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มชะลอการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลด้านเศรษฐกิจและตลาดแรงงาน ยังออกมาแข็งแกร่ง โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 385,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 29 พ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมี.ค. 2563 นอกจากนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงต่ำกว่าระดับ 400,000 รายเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่โรคโควิด-19 เริ่มระบาดเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน

ขณะที่ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้น 978,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 680,000 ตำแหน่ง และเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2563

ทางด้านสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 64 ในเดือนพ.ค. จากระดับ 62.7 ในเดือนเม.ย. โดยดัชนีเดือนพ.ค.ถือเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 63

หุ้นเติบโต (Growth Stocks) ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง โดยหุ้นอินเทล ดิ่งลง 2.16% หุ้นเฟซบุ๊ก ลดลง 0.94% หุ้นแอปเปิล ร่วงลง 1.22% หุ้นไมโครซอฟท์ ลดลง 0.64% หุ้นอัลฟาเบท ร่วงลง 0.97% หุ้นแอมะซอน ร่วงลง 1.45%

หุ้นเทสลา ร่วงลง 5.33% หลังมีรายงานว่า เทสลาเรียกคืนรถยนต์รุ่น Model 3 จำนวน 734 คันในประเทศจีน เนื่องจากพบปัญหาที่เข็มขัดนิรภัยและปัญหาที่เกี่ยวข้องกับยางรถยนต์ ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะทำให้ผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บหากเกิดอุบัติเหตุชนกัน