ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 152จุด ผ่อนคลายความคืบหน้าการเจรตาการค้าจีน-สหรัฐ

  • ยูเอสทีอาร์แถลงสหรัฐและจีนใกล้จะเสร็จสิ้นการทำข้อตกลงบางส่วนในขั้นแรก
  • ผลประกอบการไตรมาส3ส่วนใหญ่ยังดีกว่านักวิเคราะห์คาด
  • จับตาเบรทซิท-ลุ้นเฟดลดดอกเบี้ยสิ้นเดือนนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่25ต.ค.ปรับตัวขึ้น 152.53 จุด หรือ 0.57% ปิดที่ 26,958.06 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี500 เพิ่มขึ้น 12.26 จุดหรือ 0.41% ปิดที่ 3,022.55 จุด และดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิทปิดที่ 8,237.04 จุเ ปรับตัวขึ้น 57.32 จุดหรือ 0.7%

นักลงทุนยังซื้อหุ้นตามผลประกอบการของบริษัทไตรมาส3ที่ปรับตัวดีขึ้น โดย บริษัทมากกว่า 38% ในดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ออกมาแล้ว 78% รายงานตัวเลขกำไรดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

โดยอินเทล คอร์ป ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ของสหรัฐ ซึ่งเปิดเผยว่า บริษัทมีกำไรในไตรมาส 3 ที่ระดับ 1.35 ดอลลาร์ต่อหุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ เนื่องจากมีรายได้ 1.919 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่คาดไว้ที่ระดับ 1.805 หมื่นล้านดอลลาร์

นักลงทุนยังผ่อนคลายมากขึ้น ในประเด็นสงครามการค้า หลังสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) ออกแถลงการณ์ว่า สหรัฐและจีน มีความคืบหน้าในการเจรจาการค้า และใกล้ที่จะเสร็จสิ้นการทำข้อตกลงบางส่วนในขั้นแรก

“เจ้าหน้าที่มีความคืบหน้าในหลายประเด็น และทั้งสองฝ่ายใกล้เสร็จสิ้นเนื้อหาบางส่วนในข้อตกลงดังกล่าว และการหารือจะยังคงดำเนินไปในระดับรัฐมนตรีช่วย ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับรัฐมนตรีจะเจรจากันทางโทรศัพท์ในอนาคตอันใกล้” แถลงการณ์ระบุ

นายหลี่ ยู่เฉิง รมช.ต่างประเทศของจีน กล่าวก่อนหน้านี้ว่า จีนและสหรัฐมีความคืบหน้าในการเจรจาการค้า และทั้งสองฝ่ายจะสามารถแก้ไขปัญหาใดๆได้ ตราบใดที่มีความเคารพซึ่งกันและกัน

นอกจากนี้ นายหลี่ ยังกล่าวว่า โลกต้องการให้จีนและสหรัฐยุติการทำสงครามการค้า ซึ่งทั้งสองฝ่ายต้องมีใจเปิดกว้าง แทนที่จะทำสงครามเย็นครั้งใหม่

อย่างไรก็ตาม ตลาดจับตาขั้นตอนการทำข้อตกลงการออกจากสหภาพยุโรปหรืออียูของสหรราชอาณาจักร(เบรทซิท) ซึ่งล่าสุดอียูได้เลื่อนเส้นตายวันที่31ต.ค.ออกไปไม่มีกำหนด

ขณะที่กว่า90%ของนักลงทุนมีความคาดหวังว่าในการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)วันที่29-30ต.ค.นี่จะปรับลดดอกเบี้ยลงเป็นครั้งที่3อีก0.25%