ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 194จุด นักลงทุนช้อนซื้อหุ้นพื้นฐานดี

  • มีแรงซื้อต่อเนื่องในหุ้นกลุ่มปลอดภัยและสามารถต้านทานวัฎจักรทางเศรษฐกิจได้ดี
  • นักลงทุนยังคงกังวลเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย ทำว่างงานพุ่งเศรษฐกิจถดถอย
  • หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงรับราคาน้ำมันดิบโลกลดต่อเนื่อง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 23 มิ.ย.ที่ 30,677.36 จุด เพิ่มขึ้น 194.23 จุด หรือ +0.64%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,795.73 จุด เพิ่มขึ้น 35.84 จุด หรือ +0.95% ส่วนดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิสปิดที่ 11,232.19 จุด เพิ่มขึ้น 179.11 จุด หรือ +1.62%

นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นที่ปลอดภัยและสามารถต้านทานวัฎจักรทางเศรษฐกิจได้ดี (Defensive Stocks) เช่นหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคและกลุ่มเฮลธ์แคร์ นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยียังเป็นปัจจัยช่วยหนุนตลาด อย่างไรก็ตาม หุ้นพลังงานลดลงต่อเนื่อง

หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคพุ่งขึ้น 2.4% นำโดยหุ้นดุ๊ค เอนเนอร์จี ทะยานขึ้น 3.24% หุ้นเอ็กเซลอน คอร์ปอเรชั่น พุ่งขึ้น 1.3% หุ้นพอร์ทแลนด์ เจเนอรัล อิเล็กทริก ดีดขึ้น 1.28%

ขณะที่ดัชนีหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ ดีดตัวขึ้น 2% โดยหุ้นแอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส บวก 0.73% หุ้นอิไล ลิลลี่ (Eli Lilly) พุ่งขึ้น 1.97% หุ้นจีเลียด ปรับตัวขึ้น 1.74% หุ้นบริสตอล-ไมเยอร์ส สควิบบ์ พุ่งขึ้น 1.49%

หุ้นโมเดอร์นา ทะยานขึ้น 5.28% หลังบริษัทเปิดเผยว่าวัคซีนโควิด-19 รุ่นใหม่ที่พัฒนาขึ้นเพื่อป้องกันไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนนั้น สามารถสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่งในการป้องกันการติดเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 ซึ่งได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักในสหรัฐแล้วในขณะนี้

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 2.26% หุ้นเมตา แพลทฟอร์มส์ พุ่งขึ้น 1.86% หุ้นทวิตเตอร์ บวก 0.6% หุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 2.16% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ เพิ่มขึ้น 1.58% หุ้นอัลฟาเบท ดีดขึ้น 0.68%

อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงหลังจากราคาน้ำมัน WTI ดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 3.1% หุ้นเชฟรอน ดิ่งลง 3.66% หุ้นชลัมเบอร์เจอร์ ร่วงลง 6.77% หุ้นฟิลลิปส์ 66 ดิ่งลง 6.78% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ร่วงลง 6.36%

ส่วนหุ้นกลุ่มที่อ่อนไหวต่อแนวโน้มเศรษฐกิจปรับตัวลง รวมถึงหุ้นกลุ่มวัสดุและกลุ่มอุตสาหกรรม โดยหุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอแรน ร่วงลง 5.59% หุ้นยูเอส สตีล คอร์ป ลดลง 0.31% หุ้นวัลแคน มาเทเรียลส์ ร่วงลง 1.85% หุ้นโบอิ้ง ร่วงลง 2.43% หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) ลดลง 0.71% หุ้นฮันนีเวลล์ ร่วงลง 1.78% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ดิ่งลง 4.88%

นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงต่อสภาคองเกรสเป็นวันที่ 2 เมื่อวานนี้ว่า เฟดมุ่งมั่นที่จะควบคุมอัตราเงินเฟ้ออย่างไม่มีเงื่อนไข เนื่องจากขณะนี้เงินเฟ้อในสหรัฐพุ่งขึ้นมากกว่า 3 เท่าจากเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% อย่างไรก็ดี นายพาวเวลยอมรับว่าการดำเนินการของเฟดมีความเสี่ยงที่จะทำให้อัตราว่างงานสูงขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสหรัฐลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนว่าภาวะตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง แม้มีการชะลอตัวลงบางส่วนก็ตามโดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 229,000 ราย ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 18 มิ.ย. แต่ยังสูงกว่าจำนวนที่บรรดานักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 227,000 ราย