ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกต่อ 96 จุด เชื่อมั่นจีน-สหรัฐฯทำข้อตกลงการค้าเฟสแรก ม.ค.63

  • บรรยากาศกีดกันการค้าดูคลี่คลายหลังทางการจีนลดภาษีนำเข้าต่อเนื่อง
  • ประธานาธิบดีทรัมป์ยืนยันสหรัฐและจีนจะลงนามในข้อตกลงการค้าเร็วๆนี้
  • ดันดัชนีดาวโจนส์ -แนสแด็ก-เอสแอนด์พี500 ปิดตลาดนิวไฮต่อไม่หยุด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 23 ธ.ค.ที่ 28,551.53 จุด เพิ่มขึ้น 96.44 จุด หรือ +0.34% ดัชนี เอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,224.01 จุด เพิ่มขึ้น 2.79 จุด หรือ +0.09% ด้านดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิท ปิดที่ 8,945.65 จุด เพิ่มขึ้น 20.69 จุด หรือ +0.23%

โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ ส่งท้ายปลายปียังคงเดินหน้าทำลายสถิติสูงสุดต่อไป ดัชนีดาวโจนส์ และดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ขณะที่ดัชนีแนสแด็กทำสถิติปิดทำนิวไฮติดต่อกันยาวนานถึง 8 วันทำการ เ

นักลงทุนคาดว่าจะมีการทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีนภายในเดือน ม.ค.ที่จะถึงนี้ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า สหรัฐและจีนจะลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกในไม่ช้านี้

ขณะที่ท่าทีของทางการจีนดีขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน โดยวานนนี้กระทรวงการคลังจีนแถลงว่า รัฐบาลจีนจะปรับลดภาษีนำเข้าสินค้ากว่า 850 รายการ ซึ่งรวมถึงเนื้อหมูแช่แข็ง เวชภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์กระดาษ และอุปกรณ์ไฮเทค โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2563 โดยรัฐบาลจีนดำเนินการดังกล่าวเพื่อกระตุ้นการนำเข้า ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และการทำสงครามการค้ากับสหรัฐ

หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมดีดตัวขึ้นขานรับความคืบหน้าด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยหุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก พุ่งขึ้น 1.2% หุ้นยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ บวก 0.2% หุ้นเอเมอร์สัน อิเล็กทริก บวก 0.7% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ เพิ่มขึ้น 0.6%

หุ้นโบอิ้งพุ่งขึ้น 2.86% หลังจากโบอิ้งประกาศปลดนายเดนนิส มุยเลนเบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทออกจากตำแหน่งเมื่อวานนี้ โดยที่ผ่านมาโบอิ้งเผชิญกับวิกฤติความน่าเชื่อถือ กรณีเครื่องบินรุ่น 737 MAX ถูกสั่งห้ามขึ้นบิน เนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัย

หุ้นไบเออร์ พุ่งขึ้น 2.9% หลังจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ และสำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมสหรัฐ (EPA) ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ศาลอุทธรณ์กลับคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ซึ่งตัดสินว่าบริษัทไบเออร์ต้องรับผิดชอบต่อผู้ที่เป็นมะเร็งจากการใช้ยาฆ่าหญ้า”ราวน์อัพ”ของบริษัทมอนซานโต ซึ่งเป็นบริษัทในเครือในสหรัฐของไบเออร์

นักลงทุนยังติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ฯโดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 1.3% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 719,000 ยูนิต แต่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 734,000 ยูนิต หลังจากแตะระดับ 710,000 ยูนิตในเดือนต.ค.ขณะที่ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ดิ่งลง 2.0% ในเดือนพ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนต.ค.