ดัชนีดาวโจนส์บวกเล็กน้อย 45จุด นักลงทุนเลือกชอปหุ้นตามปัจจัยบวกผลประกอบการดี

  • เริ่มมีแรงช้อนซื้อบริษัทที่หุ้นร่วงมากในช่วงก่อนหน้า
  • หุ้นน้ำมัน-แอปเปิลดีดขึ้นช่วยหนุนตลาด
  • คาดเฟดลดดอกเบี้ยในการประชุมสิ้นเดือนนี้

หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น 2.7% ขานรับสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่ลดลงอย่างเหนือความคาดหมาย โดยหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ดีดตัวขึ้น 1.5% หุ้นเอ็กซอน โมบิล เพิ่มขึ้น 0.9% หุ้นเชฟรอน เพิ่มขึ้น 0.15% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี ทะยานขึ้น 5.5% หุ้นเดวอน เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 3.05% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม เพิ่มขึ้น 1.6%

หุ้นแอปเปิล ปรับตัวขึ้น 1.3% หลังจากนักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนลีย์ คาดการณ์ว่า “Apple TV plus” ซึ่งเป็นบริการวิดีโอสตรีมมิ่งที่แอปเปิลเตรียมเปิดตัวเร็วๆนี้ จะช่วยให้รายได้ด้านการบริการของแอปเปิลเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

หุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 2.1% หลังจากตกลงหนักในวันก่อนหน้า โดยได้แรงหนุนจากการที่นายมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของเฟซบุ๊ก พยายามทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐมีความเชื่อมั่นในสกุลเงินลิบรา ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลของเฟซบุ๊ก

เช่นเดียวกับหุ้นโบอิ้ง ปิดตลาดดีดตัวขึ้น 1.04% หลังจากที่ร่วงลงแรงในช่วงที่ผ่านมา บริษัทยังคงยืนยันเกี่ยวกับกรอบเวลาในการนำเครื่องบินโบอิ้ง 737 Max กลับสู่การให้บริการ ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนยังคงมีมุมมองที่ดีขึ้นและเริ่มช้อนซื้อ

อย่างไรก็ดี หุ้นเท็กซัส อินสตรูเมนท์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐ ดิ่งลง 7.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งได้ฉุดหุ้นบริษัทผลิตชิปรายอื่นๆร่วงลงด้วย โดยหุ้นบรอดคอม ร่วงลง 2.5% หุ้นควอลคอมม์ ร่วงลง 1.6% หุ้นอินเทล ปรับตัวลง 0.5% หุ้น Nvidia ลดลง 0.3%

นักลงทุนรอการประกาศรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงไมโครซอฟท์, ฟอร์ด มอเตอร์ และเทสลาร์

ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 29-30 ต.ค.นี้ ขณะที่ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาส 94.6% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้