ญี่ปุ่น-ฝรั่งเศสพบผู้ติดเชื้อ “โอไมครอน” รายแรก

.เป็นนักการทูตนามิเบียวัยตรวจเชื้อที่สนามบินนาริตะ
.ที่ฝรั่งเศสเป็นชาววัย 53 เดินทางไปโมซัมบิก-แอฟริกาใต้
.สิงคโปร์ผู้ติดเชื้อจากแอฟริกาใต้มาเปลี่ยนเครื่องก่อนไปซีดนีย์

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่าว่า ญี่ปุ่นยืนยันพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนเป็นรายแรกในประเทศวันนี้ (30 พ.ย.) เป็นนักการทูตชาวนามิเบียวัยประมาณ 30 ปี

รายงานระบุว่า หลังจากนักการทูตคนดังกล่าวเดินทางมาถึงญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา เขาได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนที่ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ ซึ่งผลออกมาเป็นบวก

ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ เปิดเผยว่า นักเดินทาง 2 คนจากโยฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งมีผลตรวจเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนเป็นบวก ได้แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินชางงี ก่อนเดินทางไปเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย

โดยผู้ติดเชื้อทั้ง 2 รายได้เดินทางออกจากกรุงโยฮันเนสเบิร์กเมื่อวันที่ 27 พ.ย.ด้วยสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ และเดินทางถึงสนามบินชางงีในวันเดียวกันเพื่อเปลี่ยนเครื่อง โดยทั้งคู่มีผลตรวจเป็นลบก่อนเดินทางออกจากสิงคโปร์ แต่เดินทางถึงซิดนีย์ กลับมีผลตรวจเป็นบวก

อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ ระบุว่า นักเดินทางส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ที่กำหนดไว้เมื่อต้องมีการเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินชางงี และขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการปูพรมตรวจหาเชื้อพนักงาในนสนามบิน ซึ่งอาจติดต่อกับผู้ติดเชื้อโดยบังเอิญ

ด้านสื่อฝรั่งเศสรายงานโดยอ้างนักวิจัยรายหนึ่งว่า เกาะลา เรอูนียง (La Reunion) ของฝรั่งเศส ที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน 1 ราย เป็นชายวัย 53 ปีที่เดินทางไปยังโมซัมบิกและแวะพักในแอฟริกาใต้ โดยผู้ติดเชื้อรายนี้ได้ถูกกักตัวแล้ว

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ความวิตกเกี่ยวกับเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนได้กดดันให้นานาชาติ  รวมถึงสหรัฐฯออกมาตรการจำกัดการเดินทางจากทวีปแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นสถานที่ตรวจพบเชื้อไวรัสโอไมครอนเป็นครั้งแรก ขณะที่องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนว่า สายพันธุ์ดังกล่าวเสี่ยงที่จะทำให้ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่พบผู้เสียชีวิตจากไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน