“ซูเปอร์โพล” เผย ปชช.เห็นด้วยสังคมไทยจะอยู่สงบสุข คนในชาติต้องปกป้องสถาบัน

  • พบ 92.2% ระบุ การเมืองที่กำลังคุกคามสถาบัน กำลังซ้ำเติมวิกฤติชาติ สร้างความแตกแยก
  • อีกทั้งอยากให้ธนาธรออกมาเคลียร์ปมแม่บุกรุกป่าภาษีเรือยอร์ชปลดพนักงานฯ
  • พบพรรคไทยภักดี เป็นพรรคการเมืองตั้งใหม่ ที่ประชาชนชื่นชอบในเวลานี้

วันนี้ (22 ม.ค.64) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) ได้นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง พรรคตั้งใหม่ หัวใจประชาชน กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,278 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 19 – 21 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา พบว่า ส่วนใหญ่หรือ 98.6% เห็นด้วยว่า สังคมไทยจะอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข คนในชาติต้องออกมาปกป้องสถาบันหลักของชาติ ในขณะที่เพียง1.4% เท่านั้นไม่เห็นด้วย

ทั้งนี้ที่น่าสนใจคือ ส่วนใหญ่หรือ 92.2% ระบุ การเมืองที่กำลังคุกคามสถาบันหลักของชาติ กำลังซ้ำเติมวิกฤติชาติความทุกข์ยากและสร้างความแตกแยกของคนในชาติช่วง วิกฤตเศรษฐกิจ วิกฤตโควิด ในขณะที่เพียง 7.8% ระบุไม่คุกคาม ไม่ซ้ำเติม

นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือ 96.6% แนะนำให้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ออกมาเคลียร์ปมที่ประชาชนเคลือบแคลงสงสัยเช่น การบุกรุกป่าของมารดาของนายธนาธรฯ ภาษีเรือยอร์ช การปลดพนักงาน แรงงานของบริษัทฯ เงินบริจาคช่วยเหยื่อโควิดที่แจกไม่หมดนำไปใช้จ่ายอย่างอื่น เป็นต้น ในขณะที่ 3.4% ไม่แนะนำ

นอกจากนี้ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 91.4% สนับสนุน พรรคไทยภักดีฯ ของ นายแพทย์ วรงค์ เดชกิจวิกรม ที่ออกมาปกป้องรักษาสถาบันหลักของชาติ ในขณะที่ 8.6% ไม่สนับสนุน

ที่น่าพิจารณาคือ เมื่อถามถึงพรรคการเมืองตั้งใหม่ ที่ชื่นชอบในหัวใจประชาชน พบว่า อันดับแรก ได้แก่ พรรค ไทยภักดีฯ 22.2% อันดับที่ สอง ได้แก่ พรรค กล้า 19.2% และอันดับที่สามได้แก่ พรรค ไทยสร้างไทย 18.7% ตามลำดับ

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กล่าวว่า ผลโพลนี้ชี้ให้เห็นว่า พรรคไทยภักดี แรงนำหน้า” พรรคตั้งใหม่อื่นๆ โดยได้รับเสียงสนับสนุนจากกลุ่มประชาชนที่เล็งเห็นว่า การออกมาเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองต่าง ๆ ที่ส่อให้เกิดความแตกแยกของคนในชาติเป็นเรื่องที่ไม่ถูกกาลเทศะในช่วงเวลาวิกฤติโควิด และวิกฤติเศรษฐกิจที่กำลังต้องการความร่วมแรงร่วมใจกันแก้ไขปัญหามากกว่าการซ้ำเติมความทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชน 

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเชิงลึกพบประเด็นที่น่าพิจารณาคือ ประชาชนราษฎรทั่วไปที่ไม่ใช่ผู้มีอำนาจรัฐที่ออกมาปกป้องรักษาสถาบันหลักของชาติ มักจะเป็นผู้เสียสละที่ไม่ได้รับการดูแลช่วยเหลืออะไรจากผู้มีอำนาจรัฐ