“ซูเปอร์โพล”ชี้ส่วนใหญ่เชื่อมั่นรัฐใช้งบมีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์ต่อประชาชน

  • เชื่อมั่นรัฐบาลนำเงินไปใช้พัฒนาประเทศ
  • ซัดนักการเมืองแบบเก่าไม่สร้างสรรค์
  • ตั้งใจบิดเบือน เสียดสี สร้างความขัดแย้งในสังคม

เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เปิดเผยผลสำรวจ เรื่อง งบประมาณปี 66 กับ ความคาดหวังฟื้นประเทศ สอบถามกลุ่มตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศจำนวน 1,126 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 3 – 4 มิ.ย.พบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 92.3 ต้องการให้ข้าราชการ ที่มีหน้าที่ใช้งบประมาณไม่ทุจริต โปร่งใส ขยันทำงานเพื่อประชาชน ไม่เป็นเครื่องมือทางการเมือง หรือนำเงินเข้ากระเป๋าตนเองจนทำให้ประชาชนเดือดร้อน

นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 90.6 ต้องการให้นำเงินงบประมาณไปใช้ ประหยัด โปร่งใส คุ้มค่า เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและประเทศชาติอย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 87.9 ไม่ต้องการให้นำเรื่อง งบประมาณของประเทศ มาเป็นเกมกดดันหรือต่อรองประโยชน์ทางการเมือง ,ร้อยละ 86.5 เห็นด้วยกับการเมืองระบอบประชาธิปไตยที่ใช้กลไกรัฐสภาในการทำงานเพื่อประชาชน ดีกว่าการนำมวลชนลงถนน , ร้อยละ 85.4 ระบุมียังมีนักการเมืองแบบเก่า อภิปรายไม่สร้างสรรค์ จับสาระไม่ได้ ตั้งใจเสียดสีและบิดเบือน สร้างความเข้าใจผิดในสังคม และร้อยละ 80.1 ระบุ ภาพรวม การอภิปรายงบประมาณ ปี 2566 ดีขึ้นเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ มีข้อสังเกตและเสนอแนะทางนโยบาย ที่เป็นประโยชน์กับประชาชน

ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 80.6 มีความหวังว่า หลังผ่านงบประมาณ ปี 66 จะทำให้มีเงินเข้าระบบ มาพัฒนา ฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังผ่านวิกฤตโควิด -19 และเปิดประเทศ ในขณะที่ร้อยละ 19.4 ไม่มีความหวัง อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 69.4 ยังเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะนำเงินไปใช้พัฒนาประเทศให้มีประสิทธิภาพ ในขณะที่ร้อยละ 30.6 ไม่เชื่อมั่น

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลโพลนี้ชี้ให้เห็นความคาดหวังและความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ ต้องการเห็นข้าราชการใช้จ่ายงบประมาณอย่างสุจริตโปร่งใส ปราศจากคอร์รัปชัน ไม่แปลงเงินเข้ากระเป๋าและเป็นเครื่องมือหาทุนทางการเมือง บั่นทอนประโยชน์สังคมและสร้างความเดือดร้อนประชาชนโดยต้องการนำงบประมาณไปใช้ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง ประหยัด โปร่งใสคุ้มค่าภาษี เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและประเทศชาติ และไม่ต้องการให้นำเรื่องงบประมาณของประเทศ เป็นเกมทางการเมือง

นอกจากนี้ ควันหลงจากการอภิปรายงบประมาณครั้งนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ เห็นด้วยกับการเมืองระบอบประชาธิปไตยที่ใช้กลไกลรัฐสภาทำงานเพื่อประชาชน ดีกว่าการนำมวลชนลงถนน โดยภาพรวมการอภิปรายงบประมาณ ปี 66 เป็นไปอย่างสร้างสรรค์ มีข้อเสนอแนะเชิงนโยบายที่เป็นประโยชน์ ขณะที่ส่วนใหญ่ ก็ยังเห็นนักการเมืองแบบเก่า ที่ไม่สร้างสรรค์และพัฒนาตนเอง ตั้งใจบิดเบือน เสียดสี สร้างความขัดแย้งและสับสนในสังคม

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวต่อว่า ประชาชนส่วนใหญ่ยังมีความหวัง หลังผ่านงบประมาณ จะทำให้มีเงินเข้าระบบพัฒนาทันการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังผ่านวิกฤตโควิด-19 และเปิดประเทศ และเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะนำเงินไปใช้พัฒนาประเทศ อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้หากรัฐบาลและส่วนราชการ นำข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์จากการอภิปราย ไปปรับเสริมนโยบายตอบสนองความต้องการของประชาชน และภาคการเมืองและประชาชน มีส่วนร่วมกันตรวจสอบและสะท้อนความต้องการไปพร้อมกัน จะทำให้การใช้จ่ายงบประมาณตรงเป้าสามารถตอบโจทย์ของประเทศและประชาชนได้มากยิ่งขึ้น.