ซื้อ RMF SSF ไม่ต้องรอโค้งสุดท้าย!!

ใกล้ปลายปีแบบนี้ ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้ส่วนใหญ่ มักจะหาซื้อกองทุนรวมลดหย่อนภาษีต่างๆ กันอย่างคึกคัก เพื่อเอาไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเมื่อถึงเวลายื่นจ่ายภาษีในปีหน้า

แต่จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เล่นงานทุกคน แบบไม่แบ่งแยกเพศ อายุ และฐานะ  อาจส่งผลให้การซื้อกองทุนปีนี้ ไม่ค่อยคึกคักเหมือนปีก่อนๆ  เพราะผู้ที่ได้รับผลกระทบต้องเอาเงินออมที่กันไว้ มาเยียวยาเลี้ยงชีพ อาจไม่มีเงินมาซื้อกองทุนรวม RMF -SSF หรือซื้อได้แต่ก็น้อยลงกว่าที่วางแผนไว้ 

 อย่างไรก็ตาม นักวางแผนการเงินจะแนะนำการซื้อกองทุนรวมที่เหมาะสม คือ การทยอยลงทุนแบบ Dollar Cost Average (DCA)  คือการลงทุนแบบสม่ำเสมอ ด้วยเงินจำนวนเท่า ๆ กันทุกเดือน เพื่อถัวเฉลี่ยต้นทุน ซึ่งจะช่วยในการบริหารความเสี่ยงของเงินที่ลงทุนได้

เราไม่ควรรอซื้อกองทุน ในช่วงโค้งสุดท้ายของทุกปีเหมือนที่เคยชินทำกันทุกปี ที่ถูกที่ควรทำ คือ ทยอยซื้อสะสมทุกเดือนตั้งแต่ต้นปี

ส่วนจะซื้อกองทุนไหนดีนั้น เพราะแต่ละกองทุนจะกำหนดนโยบายในการลงทุนแตกต่างกันไป  ผู้ลงทุน ต้องไปศึกษาหาข้อมูล และเลือกกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนที่เหมาะกับเป้าหมายของผลตอบแทนที่เราต้องการ และความเสี่ยงที่ยอมรับได้ จะเห็นได้ว่า ยิ่งเรามีเวลาตัดสินใจมากเท่าไร ก็ยิ่งดีกับตัวเราเอง

นอกจากนี้ คุณนายพารวย อยากให้มองกองทุนรวม RMF – SSF  ว่า เป็นการวางแผนออมเงินระยะยาว ลงทุนเก็บออมเงินไว้ใช้ยามเกษียณเป็นประโยชน์หลัก  ส่วนการได้สิทธิพิเศษลดหย่อนภาษีเป็นเรื่องรองลงมา เพราะเป้าหมายที่แท้จริงของกองทุนเหล่านี้ ถูกออกแบบมาเพื่อส่งเสริมให้คนไทยรู้จักออมเงินไว้ใช้ยามเกษียณ โดยรัฐส่งเสริมการออมเพื่อเกษียณ คือให้เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ซื้อกองทุนสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ !!

ในส่วนของ กองทุนรวม RMF หลัก ๆ แล้ว มีนโยบายการลงทุน 4 ประเภท คือ 1.กองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในหุ้น 100% (มีทั้งหุ้นไทยและต่างประเทศ) 2.กองทุนรวมผสมที่มีนโยบายลงทุนทั้งหุ้นและตราสารหนี้ หรือตราสารอื่นๆ 3.กองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนตราสารหนี้ (มีทั้งไทยและต่างประเทศ) 4.กองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก เช่น ทองคำ อสังหาริมทรัพย์ กอง REIT  เป็นต้น

คนที่รู้ว่าเสี่ยงแต่ยังอยากจะขอลอง  อาจเลือกกองทุนรวมที่เน้นลงทุนในหุ้น แต่สำหรับคนที่เป็นโรคหัวใจ รับความเสี่ยงไม่ค่อยได้ ไม่อยากเครียดก็เลือกกองทุนรวมที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ หรือกองทุนผสม         

สิ่งที่ต้องดูอีกอย่าง คือ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ผู้ออกกองทุนมีความมั่นคงแค่ไหน ผู้จัดการกองทุนเป็นใคร ผลงานที่ผ่านมาสร้างผลตอบแทนให้กองทุนที่ดูแลเป็นอย่างไร  แม้ผลงานที่ผ่านมา ไม่ได้รับประกันถึงผลตอบแทนในอนาคต  แต่เจ้าของเงินคงสบายใจกว่า ที่จะลงทุนกับกองทุนที่ทำผลงานได้ดีและสม่ำเสมอ!!

และอย่าลืมว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีโครงการ POINT to INVEST ที่จับมือกับสถาบันการเงิน ให้นำพอยต์บัตรเครดิตมาแลกซื้อกองทุนรวมได้  ใช้คะแนนได้คุ้มค่าสุดๆ ก็คราวนี้แหละ 

ถ้าคิดไม่ออกบอกไม่ถูก ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง เข้าไปที่เว็บไซต์ https://www.setinvestnow.com   ไปหาความรู้เกี่ยวกับการออม การลงทุนกองทุน SSF-RMF และเทคนิคการประหยัดภาษี ที่มีให้ศึกษากันแบบเข้าใจง่ายๆ!!