“ชูวิทย์”บุกสภาฯ! ยื่น”ปธ.กมธ.ป.ป.ช.”สอบเส้นทางการเงิน”สันธนะ ประยูรรัตน์”

วันที่ 23 พฤศจิกายน 2565 เวลา 08.30น. ที่รัฐสภา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตส.ส. อดีตเจ้าของอาบอบนวดชื่อดัง เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้สอบสวนเส้นทางการเงินนายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล จากกรณีที่มีบ้านราคาแพง ภรรยาและบุตรมีรถหรู มีการใช้จ่ายเงิน ทั้งๆที่ถูกไล่ออกจากราชการ โดยอ้างว่าทำงานต่างประเทศ และไม่ทราบว่าอยู่บริษัทอะไร รวมถึงมีการเสียภาษีหรือไม่ 

นายชูวิทย์ กล่าวว่า จากที่ตนได้ออกมาเปิดเผยเรื่องนายทุนจีนสีเทา ถือว่าตอนนี้เป็นวาระแห่งชาติ จนวันนี้มีการออกหมายจับ นายหาว เจ๋อ ตู้ ถือว่าตนหมดภาระหน้าที่แล้ว และยินดีมอบข้อมูลต่างๆ ที่แสดงถึงทรัพย์สินของกลุ่มทุนจีนสีเทานี้ ให้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) ไปทำตามหน้าที่ต่อ แต่ภายหลังจากที่ตนเผยเผยข้อมูลได้ไม่นานก็มีนายสันธนะ ที่ตนมองว่าเป็นบุคคลอันตรายต่อสังคม โดยใช้สื่อตีมูลค่าตนเอง เข้ามาที่โรงแรมของตนและป้ายสีว่ามีการมั่วสุมเสพยา มีการอ้างเรื่องอาบอบนวดที่ตนขายไปเมื่อหลายปีก่อน วันนี้ตนจึงยื่นกมธ.ป.ปช. และเชื่อว่า การทำหน้าที่ของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จะมีความตรงไปตรงมา ชัดเจน 

นายชูวิทย์ กล่าวต่อว่า ได้มอบเอกสารหลักฐาน ต่อประธานกมธ.ป.ป.ช. เกี่ยวกับสาเหตุที่ปลดนายสันธนะออกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งนายสันธนะได้ขออุทธรณ์แต่ฟังไม่ขึ้น จึงมีคำสั่งใหม่ ให้ไล่ออกจากราชการเป็นการถูกต้องเหมาะสมแล้ว จากนั้นมีการเรียกคืนเครื่องราชถอดยศทั้งหมด เมื่อปี61 เหตุผลเพราะมีการเข้าไปแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมที่ดอนเมือง โดยหลังจากนี้ตนยินดีที่ให้เข้ามาให้ข้อมูลกับกมธ.ป.ป.ช. ทั้งในกรณีที่ตนมายื่น หรือกรณีที่นายสันทนะจะมายื่นให้สอบตนก็ตาม 

ก่อนที่นายสันธนะจะไปตรวจสอบคนอื่นก็ต้องดูเบื้องหลังของตนเองก่อน เพราะเวลาพูดแล้วยังกั๊กให้ไปตีความกันเอง หมดยุคมาเฟีย ทำท่ากร่าง ทั้งๆที่ไม่ได้มีหน้าที่ตรวจสอบใคร เพราะถูกไล่ออกจากราชการ แสดงท่าทีบุคลิกที่เป็นอันตรายต่อสังคมอย่างยิ่ง ส่วนผมเป็นลูกผู้ชาย การต่อสู้ของผมไม่จำเป็นต้องอยู่ในสภาฯเหมือนในอดีต ผมก็ต่อสู้ได้ จนวันนี้มีการออกหมายจับนายทุนจีนสีเทา สิ่งที่ผมพูดถือเป็นประโยชน์  เมื่อมีคนมาขัดขวางมาป้ายสีผม ก็้จำเป็นที่จะต้องปกป้องตัวเอง” นายชูวิทย์ กล่าว

นายชูวิทย์ กล่าวด้วยว่า วันนี้ตนทราบข่าวว่านายสันธนะจะเดินทางมายื่นหนังสือที่นี่ ตนก็จะรอ สังเกตมาหลายครั้งแล้วเมื่อตนไปที่ใดนายสันธนะจะตามมาทีหลังเสมอ ตนจึงมีของมาฝากคือ เกมส์แกะน้ำตาล ที่เป็นเกมส์ในซีรีย์เรื่อง squid Game ไปให้เล่น เพราะชีวิตนายสันธนะอยู่บนเส้นได้แล้ว อีกทั้งนายสันธนะไม่คำนึงถึงศักดิ์ศรีขององค์กรเก่า พฤติกรรมแบบนี้ตำรวจด้วยกันก็ไม่เอาด้วย นายสันธนะเป็นหมาหัวเน่า และตนไม่ได้อาศัยสภาแห่งนี้มาพูดถึงพฤติกรรมของนายสันธนะแต่ตนพูดถึงข้อเท็จจริง 

ด้านพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า นายชูวิทย์ ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จ การเปิดอาบอบนวดก็ไม่ได้ผิดกฎหมาย แต่อาจจะผิดเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด  ยอมรับว่านายชูวิทย์เป็นคนแน่ที่จะกล้าพบกับนายสันธนะ เพื่อพิสูจน์ความจริง ถ้ามาสร้างปัญหาเมื่อไหร่ภายในสภาก็เป็นหน้าที่ของตำรวจสภาฯ ในการดูแลความเรียบร้อยและส่งมอบให้ตำรวจในท้องที่ดำเนินการต่อ ซึ่งตนได้สั่งการไว้แล้ว 

“ในต่างประเทศประชาชนกล้าที่จะพูดความจริง เมื่อเจอการกระทำความผิด แต่ประเทศไทยมีแต่ไม่อยากยุ่ง กลัวเกิดปัญหา กลัวทำให้บ้านเมืองไม่สงบเรียบร้อย ดังนั้นการที่มีคนมาแจ้งเบาะแสเป็นเรื่องที่ดีและอยากให้ไทยก้าวไปสู่จุดนั้นได้ เรื่องทุนจีนถ้านายชูวิทย์ไม่ออกมาพูดตำรวจอาจจะไม่ทราบเรื่องกังกล่าวด้วยซ้ำ ผมในฐานะอดีตตำรวจต้องขอบคุณนายชูวิทย์ และขอให้ประชาชนเลิกกลัวการพูดความจริง” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว