ชิม ช็อป ใช้ อเมริกันสไตล์ “ทรัมป์” ประกาศแจกเงินครอบครัวละ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ด้านสเปนแจกชาวบ้าน6.5เดือน ส่วนอังกฤษเตรียมแจกเช่นกัน

  • ด้านสหภาพยุโรปสกัดโควิด ห้ามนักเดินทางจากนอกกลุ่มสหภาพฯเข้าพื้นที่นาน 30 วัน 
  • ฝรั่งเศสคุมเข้มห้ามออกจากบ้าน 15 วัน ใครฝ่าฝืนปรับ 135 ยูโร
  • อังกฤษออกแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจ 330,000 ล้านปอนด์ ช่วยผู้ประกอบการ

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศเตรียมส่งเช็คเงินสดถึงชาวอเมริกันทั่วประเทศ ครัวเรือนละ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 32,000 บาทหวังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจชะงักงันจากผลกระทบการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ชาวอเมริกันติดเชื้อแล้วทั่วประเทศมากราว 5,200 ราย ผู้เสียชีวิตมากกว่า 71 ราย

โดยเงินนี้เป็นส่วนหนึ่งของงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งหมด 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งรัฐบาลสหรัฐเตรียมแจกเงินทั้งหมดราว 250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ พร้อมกันนี้ ผู้นำสหรัฐฯยังประกาศแผนเลื่อนการจ่ายภาษีให้แก่บริษัทและภาคประชาชน เป็นเวลา 90 วัน เพื่อบรรเทาผลกระทบทางธุรกิจจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 

ทั้งนี้ยังมีในส่วนของมาตรการอื่นๆได้แก่เร่งกองทัพสร้างโรงพยาบาลสนามเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ผู้ป่วยจำนวนมากทั้งยังประกาศขอประชาชนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางแต่ยังไม่จำกัดการเดินทางภายในประเทศเพียงแต่อยากให้ชาวอเมริกันใช้เวลาอยู่ภายในบ้านพักให้มากขึ้น

อังกฤษอัดฉีดเงินหนุนรายได้ชาวบ้าน

ทางด้านประเทศอังกฤษ นายริซี ซูนัค รมต.คลัง กล่าวแถลงข่าวว่า รัฐบาลอังกฤษได้ประกาศมาตรการทางการเงินใหม่เพื่อช่วยเหลือธุรกิจภายใต้การติดขัดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กับมาตรการเงินกู้และการรับประกันที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลวงเงิน 3.3 แสนลบ้านปอนด์หรือประมาณ 3.98 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนงาน สนับสนุนรายได้และสนับสนุนธุรกิจ จะทำทุกสิ่งที่ทำได้

สเปนแจกเงินชาวบ้านเป็นเวลา 6.5 เดือน

ขณะที่นายเปโดร ซานเซส นายกรัฐมนตรีแห่งประเทศสเปน กล่าวว่าจะออกมาตราการทางการคลังเงิน 2 แสนล้านยูโร โดยทางรัฐบาลจะสนับสนุนการจัดหารายได้พื้นฐานแก่ประชาชนชาวสเปนทุกคนเป็นเวลา 6.5 เดือน โดบงบประมาณมากถึง 1.17 แสนล้านยูโปจะมาจากภาคสาธารณะ ซึ่งมตรการดังกล่าวเทียบเท่ากับ 20% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสเปน และเขายังเรียกร้องให้บริษัทต่างๆ หลีกเลี่ยงการปลดพนักงาน

นอกจากนี้ในส่วนความเคลื่อนไหวในพื้นที่สหภาพยุโรป เริ่มบังคับใช้มาตรการห้ามผู้คนนอกกลุ่มสหภาพยุโรปเดินทางเข้าพื้นที่ภายในช่วงเวลา 30 วัน นับตั้งแต่บัดนี้ เพื่อหวังหยุดยั้งการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 ซึ่งคร่าชีวิตชาวโลกแล้วราว 7,500 ราย และมีผู้ติดเชื้อราว 185,000 ราย โดยมาตรการห้ามคนภายนอกเดินทางเข้าประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป 26 ประเทศแล้ว ยังครอบคลุมถึงประเทศไอซ์แลนด์ ลิกเตนสไตน์ นอร์เวย์ และสวิตเซอร์แลนด์ด้วย ส่วนชาวสหราชอาณาจักรจะไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการนี้ 

ขณะที่สถานการณ์ล่าสุดของโควิด-19 ในยุโรป ฝรั่งเศส เริ่มมีมาตรการคุมเข้มปิดเมืองตั้งแต่เมื่อวานนี้ บังคับให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้านเป็นเวลา 15 วัน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค โดยอนุญาตให้ออกจากบ้านได้กรณีจำเป็นเท่านั้น ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่กว่า 100,000 นาย ออกตรวจตราทั่วประเทศ ฝ่าฝืนมีโทษปรับเงิน 135 ยูโร โดยตอนนี้ฝรั่งเศสมีผู้ติดเชื้อ 7,730 คน เสียชีวิต 175 คน และอีกกว่า 2,500 คนยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล

ด้านประเทศอังกฤษมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 71 คน รัฐบาลต้องประกาศให้ผู้คนควรอยู่แต่ในบ้าน และหลีกเลี่ยงการเดินทางหากไม่จำเป็น พร้อมออกแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจ 330,000 ล้านปอนด์ หวังช่วยผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 

ในส่วนประเทศสเปนยังคงบังคับใช้มาตรการปิดเมืองในพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ กระทบต่อประชากรกว่า 47 ล้านคน ขณะที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 11,178 คน พร้อมห้ามยานพาหนะจากฝรั่งเศสและโปรตุเกส 2 ประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาในประเทศ ส่วนอิตาลีชาติที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดในยุโรป ตอนนี้มากกว่า 26,000 คน ผู้เสียชีวิตพุ่งทะลุ 2,500 คน ยังคงมาตรการปิดประเทศต่อไป ขณะที่รัฐบาลเตรียมเข้าอุ้มอลิตาเลีย สายการบินแห่งชาติด้วยเม็ดเงินช่วยเหลือ 670 ล้านดอลลาร์สหรัฐ