ชาวอเมริกันหลายรัฐออกมาประท้วงให้ปลดล็อคดาวน์ หลัง “ทรัมป์” สนับสนุน รัฐฟลอริด้าเริ่มเปิด ชายหาดเป็นแห่งแรก แต่โพลล์ 2 ใน 3 เห็นว่าเปิดเร็วเกินไป

ชาวเมืองแจ็คสันวิลล์ออกมาเดินเล่นชายหาดหลังรัฐอนุญาต ภาพโดย NBC

เมืองแจ็คสันวิลล์ รัฐเท็กซัส เริ่มเปิดชายหาดให้ผู้คนมาออกกำลังกาย

เอ็นบีซี รายงานว่า เมื่อวันเสาร์ในหลายรัฐของสหรัฐได้มีผู้รวมตัวกันประท้วงให้ปลดล็อคดาวน์ตามท้องถนนและนอกอาคารศาลากลาง หลังจาก “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ทำการทวิตถี่ยิบเรียกร้องให้กำลังใจให้ผู้ประท้วงโดยใช้คำว่า “LIBERRATE” หรือ “ปลดปล่อย” ในบางรัฐ 

ชาวรัฐเท็กซัสออกมาประท้วงให้ปลดล็อคดาวน์หลัง “ทรัมป์” ทวิตคำว่า “ปลดปล่อย” ภาพจาก NBC

เอ็นบีซี รายงานอีกว่า ชาวรัฐฟลอริด้าพากลับไปพักผ่อนที่ชายหาดกันอีกครั้ง หลังจาก ผู้ว่าการรัฐ “รอน ดีแซนทิส” ได้เปิดไฟเขียวเปิดชายหาดเป็นบางส่วน ขณะที่ในวันเดียวกันมีตัวเลขรายงานผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุด โดยทางกรมอนามัยของรัฐได้เพิ่มตัวเลขผู้ป่วยวันศุกร์เพิ่มขึ้น 1,413 ราย เป็นการเพิ่มสูงสุด และเพิ่มขึ้นในวันเสาร์ อีก 516 ราย ส่งผลให้วันเสาร์มียอดรวมเป็น 25,748 ราย และเสียชีวิต 748 ราย

“ชาลี ลาแทม” นายกเทศมนตรีเมืองแจ็ตสันวิลล์ บิช ในรัฐฟลอริด้า และนายกเทศมนตรีในเมืองเป็นมีชายหาดหลายเมืองได้ระบุว่า การเปิดชายหาดอีกครั้งเพื่อให้ประชาชนออกกำลังกายเพียงกิจกรรมเดียววันละ 2 ครั้ง ไม่อนุญาตให้มาอาบแดดหรือการรวมตัวเป็นกลุ่มก้อน

ผู้ประท้วงนอกศาลกลางเมืองแอนนาโพลิส รัฐแมรี่แลนด์กับป้าย “reopen Maryland” เพื่อเรียกร้องให้รัฐสั่งยกเลิกคำสั่งให้อยู่บ้าน ภาพโดย
Saul Loeb / AFP – Getty Images

ขณะที่เดอการ์เดียน รายงานว่า การปิดโรงงานทั่วไปเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส ทำให้ชาวอเมริกันจำนวนมากตกงาน รวมทั้งอีกส่วนหนึ่งกังวลว่าธุรกิจขนาดเล็กของพวกเขาจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และกลัวปัญหาเศรษฐกิจที่รุนแรง แต่ผู้ที่ประท้วงตามท้องถนนนั้นเป็นความเห็นของคนกลุ่มน้อย

ชาวเมืองโคลัมบัส รัฐโอไฮโอ หลายร้อยคนประท้วงเรียกร้องให้ “ไมค์ ดีไวน์” ผู้ว่าการรัฐ เปิดระบบเศรษฐกิจทันที ภาพโดย cleveland.com

โดยอ้างอิงถึงผลวิจัยของ ศูนย์วิจัย Pew ที่ทำการสำรวจชาวอเมริกันซึ่งเป็นผู้ใหญ่ทั้งหมดเกือบ 5,000 คน ระบุว่า ชาวอเมริกัน 2 ใน 3 นั้นหวาดกลัวกับรัฐที่จะทำการยกเลิกมาตรการเข้มงวดที่รวดเร็วเกินไป เทียบกับ 1 ใน 3 เห็นว่าเวลาเหมาะสมแล้ว