ชาวนาเตรียมเฮ! รับเงินชดเชยประกันรายได้ข้าวเปลือก งวด 20 กลางสัปดาห์หน้า

  • เกษตรกรรับส่วนต่างสูงสุด 48,485 บาท
  • ต้องขึ้นทะเบียน-เก็บเกี่ยววันที่ 18-24 ก.พ.
  • ข้าวเปลือกหอมมะลิ สิ้นสุดฤดูกาลเก็บเกี่ยว ไม่มีจ่ายชดเชย

วันที่ 26 ก.พ.2565 นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว รายงานว่า ได้อนุมัติราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2564/65 รอบที่ 1 งวดที่ 20

สำหรับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนและเก็บเกี่ยวข้าวเปลือกช่วงวันที่ 18-24 กุมภาพันธ์ จำนวน 4 ชนิด ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ข้าวเปลือกเจ้า และข้าวเปลือกเหนียว ส่วนข้าวเปลือกหอมมะลิ สิ้นสุดฤดูกาลเก็บเกี่ยวแล้ว จึงไม่ต้องจ่ายชดเชยแล้ว

นางมัลลิกา กล่าวว่า สำหรับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการจ่ายเงินส่วนต่าง งวดที่ 20 ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ราคาอยู่ที่ 11,815.28 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 2,184.72 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี อยู่ที่ 10,280.55 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 719.45 บาท ข้าวเปลือกเจ้า อยู่ที่ 8,383.83 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 1,616.17 บาท และข้าวเปลือกเหนียว อยู่ที่ 9,834.41 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 2,165.59 บาท

ซึ่งในจำนวนนี้มีเกษตรกรบางส่วนได้รับเงินส่วนต่างสูงสุด คือ ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ 34,955.52 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี 17,986.25 บาท ข้าวเปลือกเจ้า 48,485.10 บาท และข้าวเปลือกเหนียว 34,649.44 บาท จากประกันรายได้ข้าวเปลือก 5 ชนิด ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 15,000 บาท ไม่เกิน 14 ตัน ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 14,000 บาท ไม่เกิน 16 ตัน

ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 10,000 บาท ไม่เกิน 30 ตัน ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 11,000 บาท ไม่เกิน 25 ตัน ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 12,000 บาท ไม่เกิน 16 ตัน โดยเข้าเปลือกชนิดต่างๆความชื้นไม่เกิน 15%

“การจ่ายเงินส่วนต่างประกันรายได้ในปีที่ 3 หลักการเดิม คือ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส.จะโอนเงินเข้าไปยังบัญชีของเกษตรกรภายใน 3 วันทำการหลังจากที่ได้มีการประกาศราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงเช่นเดียวกับปี 1 และปี 2 ซึ่งกรรมการประกาศในวันศุกร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ และติดวันหยุดราชการเสาร์-อาทิตย์ ดังนั้น ธ.ก.ส.จะต้องกดจ่ายเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง เบื้องต้นสัปดาห์หน้าไม่เกินวันพุธที่ 2 มีนาคม”