“ชาญกฤษ” มั่นใจ ธ.ก.ส.-ออมสิน พร้อมรับมือคนกู้เงินฉุกเฉิน 15 ล้านคน

  • เตือนอย่าให้ข้อมูลทางการเงินแก่บุคคลอื่น
  • ธนาคารพาณิชย์-รัฐหนุนทำธุรกรรมออนไลน์
  • เตรียมเปิดให้เปิดบัญชีเงินฝากผ่านแอปของธนาคาร

นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง) กล่าวว่า ความคืบหน้าของ โครงการสนับสนุนสินเชื่อฉุกเฉิน สำหรับช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 วงเงินกู้สูงสุด 10,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 0.10% ผ่อนชำระนาน 24 เดือน ปลอดชำระเงิน 6 เดือนแรก ภายใต้งบประมาณ 40,000 ล้านบาท คาดว่าจะมีประชาชนซึ่งดือดร้อนและหลุดจากเกณฑ์รับเงินเยียวยา 5,000 บาท เข้าใช้บริการราว 15 ล้านคน เนื่องจากขณะนี้มีผู้ลงทะเบียนรับสิทธิ์เงินเยียวยากว่า 24 ล้านคน และ โควต้าผู้ที่จะได้รับเงินเยียวยาทั้ง 2 ระยะ มี  9 ล้านคน

ขณะนี้ ธนาคารออมสิน และ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ซึ่งรับผิดชอบโครงการนี้ มีความพร้อมให้บริการประชาชนที่เดือดร้อนแล้ว โดยทั้ง 2 ธนาคารจะเปิดให้ลงทะเบียนออนไลน์วันที่ 15 เม.ย.2563 เป็นต้นไป ธนาคารออมสิน ปล่อยกู้ภายใต้กรอบวงเงิน 20,000 ล้านบาท และจะเปิดให้ลงทะเบียนผ่านเว็ปไซต์ www.gsb.or.th เพื่อให้ผู้เดือดร้อนกรอกข้อมูลส่วนตัว และ หากผ่านจะมี เอสเอ็มเอส แจ้งเตือนลูกค้าที่ได้รับอนุมัติวงเงิน

ด้าน ธ.ก.ส. ปล่อยกู้ภายใต้กรอบวงเงิน 20,000 ล้านบาท เช่นกัน และเปิดให้ลงทะเบียนผ่าน LINE ID ของธนาคารชื่อว่า @baacfamily เท่านั้น หรือ สแกนคิวอาร์โค้ด กรอกรายละเอียด และรอนัดหมายจากธนาคารผ่าน เอสเอ็มเอส และ เริ่มทำสัญญากู้เงิน ตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค.2563 หลังจากนั้นธนาคารจะแจ้งการโอนเงินเข้าบัญชี ผ่าน เอสเอ็มเอส คุณสมบัติของผู้กู้ คือ อายุ 20 ปี ขึ้นไป มีสัญชาติไทย ไม่ต้องมีหลักประกัน มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท ต่อ เดือน ประกอบอาชีพอิสระ เช่น พ่อค้าแม่ค้า คนขับรถแท็กซี่ มัคคุเทศก์ ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 มีที่อยู่อาศัยแน่นอน สามารถติดต่อได้ และ เมื่อรวมอายุผู้กู้กับระยะเวลาชำระคืนรวมกันไม่เกิน 70 ปี และ สิ้นสุดโครงการคือวันที่ 30 เม.ย. 2563



นอกจากนี้ขณะนี้เริ่มมีพวกมิจฉาชีพอาศัยจังหวะที่ประชาชนกำลังเดือดร้อนแฝงตัวทักไลน์/เฟสบุ๊ค หลอกถามข้อมูลทางการเงิน เช่น เลขที่บัญชีเงินฝาก เลขบัตรประชาชน รหัสผ่าน และ รหัสผ่าน OTP อย่าให้ข้อมูลทางด้านการเงินแก่บุคคลอื่นผ่านทางโทรศัพท์และสื่อโซเชียลเด็ดขาดเพราะอาจจะเกิดความเสียหายทางการเงินตามมา เนื่องจากตอนนี้มีโครงการช่วยเหลือต่างๆที่ทางธนาคารพาณิชย์ และ สถาบันการเงิน ร่วมกันช่วยเหลือเพื่อลดภาระหนี้ให้กับประชาชนผู้เดือดร้อนออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้ง มาตรการเยียวยาเงินชดเชย 5,000 บาท สินเชื่อฉุกเฉิน โครงการพักต้นและดอกเบี้ยอัตโนมัติ 3 เดือน ล่าสุด ธนาคารออมสิน โดนปลอมเพจเฟซบุ๊ค และ ไลน์ GSB Society ซึ่งอยากให้ประชาชนสังเกต ไลน์ GSB Society ของจริง จะต้องมีโล่สีเขียว (พื้นเขียวมีดาวห้าแฉกตรงกลาง) แสดงการเป็นแอคเคาท์พรีเมียม ซึ่งได้รับการรับรองจากบริษัทไลน์(ไทยแลนด์) วางไว้ด้านหน้าตัวอักษรคำว่า GSB

ทั้งนี้จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 ทำให้ธนาคารพาณิชย์ และ สถาบันการเงิน หันมาใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการทำธุรกรรมทางการเงินได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปสาขา ตั้งแต่การเปิดบัญชี ไปจนถึงการยื่นเรื่องขอสินเชื่อ รวมถึงการขอพักชำระหนี้ ภายหลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เปิดให้ธนาคารพาณิชย์เริ่มทดสอบการให้บริการเปิดบัญชีเงินฝากผ่านช่องทางดิจิทัล โดยใช้การพิสูจน์และยืนยันตัวตนข้ามธนาคารผ่านแพลตฟอร์ม เนชั่นแนลดิจิทัล ไอดี (National Digital ID หรือ NDID) ในวงจำกัด ซึ่งช่วยให้ประชาชนสามารถเปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคารแห่งใหม่ได้ผ่านช่องทางดิจิทัล เช่น ผ่านโมบายแอปพลิเคชัน โดยใช้การพิสูจน์และยืนยันตัวตนจากธนาคารที่ตนเองเคยมีบัญชีเงินฝาก ด้วยเทคโนโลยีการจดจำใบหน้า



ทั้งนี้ 8 สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ทั้ง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารออมสิน ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอี แบงค์) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) และ บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (บตท.) ได้เปิดแพลตฟอร์มออนไลน์ทุกช่องทาง เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด -19 อาทิ เพจFacebook ซึ่งครอบคลุมทุกสถาบันการเงิน , LINE@,QR CODE website การเปิดบัญชีออนไลน์ ผ่านแอพพลิเคชั่นของธนาคาร การใช้แอพพลิเคชั่น LINE ขอสินเชื่อฉุกเฉิน การกรอกข้อมูลสมัครสินเชื่อ และ การยื่นเรื่องพักชำระหนี้ ผ่านเว็ปไซต์ของธนาคาร

นอกจากนี้ยังมี call center ไว้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ ครอบคลุมสินเชื่อบ้าน ธุรกิจ SMEs  สินเชื่อบุคคล และ สินเชื่อเช่าซื้อ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้ได้มากและรวดเร็วที่สุด