”จุรินทร์”สั่งเดินหน้าลุยบุก10ตลาดส่งออกเป้าหมาย

ทั้งเอเชีย-ตะวันออกกลาง-แอฟริกา-ยุโรป

พร้อมดันสินค้าแบรนด์ไทย-ธุรกิจบริการ

หวังทำให้มูลค่าส่งออกไทยปีนี้โตแดนบวก

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์ (กรอ.พาณิชย์) ครั้งที่ 2/62 ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องว่า เพื่อทำให้มูลค่าการส่งออกของไทยในปีนี้ขยายตัวได้มากขึ้น ภายใต้สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่ยังยืดเยื้อ ความไม่แน่นอนของการที่สหราชอาณาจักรถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) และค่าเงินบาทแข็งค่า จึงได้กำหนดยุทธศาสตร์ที่จะใช้ขยายการส่งออก โดยเน้น 10 ตลาดเป้าหมาย ได้แก่ จีน, อินเดีย, ตุรกี, เยอรมนี, ศรีลังกา, บังคลาเทศ, ตะวันออกกลาง เช่น อิรัก ดูไบ บาห์เรน กาตาร์, แอฟริกาใต้, รัสเซีย อังกฤษ และอียู

”จากนี้ไป เราจะบุกตลาดเป้าหมายทั้ง 10 ตลาดให้มากขึ้น เพราะยังมีศักยภาพที่จะนำเข้าสินค้าจากไทยได้อีก รวมถึงสั่งการให้ทูตพาณิชย์ หาลู่ทางการส่งออกสินค้าและบริการในตลาดใหม่ที่มีศักยภาพให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยเน้นเป็นรายมณฑล รายรัฐ และเมืองรองให้มากขึ้น ซึ่งจะมุ่งไปที่สหรัฐฯ จีน และอินเดีย เพราะสินค้าของไทยส่วนใหญ่ยังเข้าไปถึงเมืองรอง หรือมณฑลห่างไกลเลย”

นอกจากนี้ จะเดินหน้าผลักดันสินค้าที่มีตราสัญลักษณ์ของไทย หรือแบรนด์ของไทย ผ่านโครงการจัดงานแสดงสินค้า Top Thai Brand ในประเทศต่างๆ , การส่งเสริมธุรกิจบริการใหม่ๆ เช่น ค้าปลีก, โลจิสติกส์, บริการก่อสร้าง ออกแบบ และตกแต่งภายใน, ธุรกิจบันเทิง รวมถึงธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ เพื่อขยายการส่งออก เป็นต้น โดยมองว่า ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ การส่งออกในภาพรวมน่าจะยังขยายตัวเป็นบวก และยังมีโอกาสที่ทั้งปียังขยายตัวได้

ด้านนางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กล่าวว่า หากไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ มูลค่าส่งออกต่อเดือนได้ที่ 22,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ก็จะทำให้ทั้งไตรมาส 4 เป็นบวกได้ และทั้งปีจะขยายตัวได้ 0% ซึ่งมีความเป็นไปได้สูง เพราะช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี เป็นช่วงของการสั่งซื้อสินค้าเพื่อเตรียมไว้ขายในช่วงเทศกาลคริสต์มาส และปีใหม่ แต่นายสนั่น อังอุบลกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า ภาคเอกชนยังมองว่า มูลค่าส่งออกไทยปีนี้ ยังติดลบที่ 1.5%