“จุรินทร์”ลั่น! ประชาธิปัตย์ขาขึ้น แจงเลือดเก่าไหลออกไม่ใช่ความผิดพรรค

  • มีว่าที่ผู้สมัครลงเลือกตั้งครบเกือบทั้งหมดแล้ว
  • เดินหน้าต่อ และหาคนใหม่เข้ามาในพรรค
  • มั่นใจประชาธิปัตย์เดินขึ้นไม่ได้เดินลง

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 มี.ค.65 ที่โรงแรมแคนทารีฮิลส์โฮเทล จ.เชียงใหม่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงงามสัมมนาพรรคว่า งานในวันนี้คืองานสัมมนาส.ส.กรรมการบริหารพรรค และผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งทำกันเป็นประจำในช่วงปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อติดตามสถานการณ์และกำหนดแนวทางการทำหน้าที่ของส.ส.ในแต่ละพื้นที่

เมื่อถามว่าการสัมมนาครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อเตรียมรับมือการยุบสภาฯใช่หรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า การยุบสภาจะมีหรือไม่ ไม่มีใครทราบแต่ต้องยอมรับว่า รัฐบาลกำลังจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 4 ถ้าอยู่ครบ 4 ปีอย่างน้อยก็ต้องมีการเลือกตั้งอยู่ดี เดือนมีนาคมนี้ก็ถือเป็นการครบ 3 ปีของรัฐบาล อย่างไรก็ตามการเตรียมตัวผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์คืบหน้าไปมาก นายนิพนธ์ บุญญามณี ในฐานะประธานคณะทำงานก็ดำเนินการมาตลอด อย่างเช่นที่จ.กรุงเทพมหานครตัวผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ และสมาชิกสภากรุงเทพฯ(ส.ก.)ก็เรียบร้อยแล้ว ส่วนตัวผู้สมัครส.ส.กทม. การเลือกตั้งรอบหน้าจะถึง33-34 เขต ซึ่งพรรคได้เตรียมพร้อมแล้วถึง 70-80%

ส่วนปัญหามีผู้เสนอตัวมากว่าหนึ่งคนนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า สาเหตุมาจากพรรคมีคะแนนความนิยมเพิ่มขึ้นมาตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบกับ 2-3 ปีที่ผ่านมาทำให้มีคนต้องการมาลงสมัครในนามของประชาธิปัตย์มากขึ้น จากที่ในแต่ละเขตไม่มีผู้ประสงค์จะลงสมัครกลายเป็นแย่งกันลง ซึ่งพรรคจะมีกระบวนการพิจารณา และยืนยันทุกคนมีความสำคัญเท่าเทียมกัน ไม่ใช่ว่าคนที่ได้รับเลือกให้ลงสมัครอยู่พรรค แต่คนที่ไม่ได้รับเลือกให้ลงสมัครออกไปอยู่พรรคอื่น ซึ่งแน่นอนท้ายที่สุดพรรคก็ต้องเลือกผู้สมัครลงแค่คนเดียว ส่วนคนที่ไม่ได้ลงเขต พรรคก็จะมีกระบวนการให้ไปลงสมัครเป็นส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ หรือหากคนใดมีความสามารถก็จะให้เข้าไปดำรงตำแหน่งทางการเมืองหากพรรคได้เป็นรัฐบาล ซึ่งตนคิดว่าเป็นทางออก ทั้งนี้เขตใดที่มีปัญหาก็จะต้องทำโพลต่อไปเพื่อตัดสินปัญหา

เมื่อถามถึงสาเหตุที่คนเก่าๆของพรรคลาออกไปนั้นนายจุรินทร์ กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรคไม่ควรจะพูด แต่การที่มีคนออกจากพรรคไม่ได้แปลว่าเป็นความผิดของพรรคเสมอไป แต่ละคนมีเงื่อนไขมีที่มาที่ไป ซึ่งตนก็เคารพ ขณะเดียวกันคนที่อยู่ในพรรคก็ต้องเดินหน้าต่อ และหาคนใหม่เข้ามาเติมเต็ม ซึ่งพรรคทำลักษณะเช่นนี้มาโดยตลอด พรรคจึงยังอยู่ได้ ที่สำคัญต้องยึดมั่นในอุดมการณ์ และต้องเดินหน้าไปสู่การเป็นสถาบันทางการเมือง

เมื่อถามต่อว่า มีการสร้างวาทะกรรมว่าคนที่ออกจากพรรคคือเลือดเทียมในฐานะหัวหน้าพรรคจะต้องทำความเข้าใจในเรื่องนี้อย่างไรบ้าง นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่ขอตอบ แต่เห็นความสำคัญของทุกคนตนก็มีหน้าที่ขับเคลื่อนร่วมกับทุกคนที่ยังแน่นเหนียวกับพรรคเพื่อพาพรรคไปสู่ความสำเร็จ ทั้งนี้มั่นใจประชาธิปัตย์เดินขึ้นไม่ได้เดินลง