“จุรินทร์”นั่งหัวโต๊ะคุมการประชุมระดับรัฐมนตรี “อาร์เซ็ป”ที่ปักกิ่ง

  • ลั่นประชุมสำเร็จตามเป้าหมาย
  • สมาชิกพร้อมร่วมกันผลักดันเจรจา
  • ยันคุยจบสมาชิก16ชาติได้ประโยขน์ร่วมกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (3 ส.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ตามเวลาประเทศจีนที่เร็วกว่าไทย 1 ชม. นายหู ชุนหวา รองนายกรัฐมนตรี สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้เดินทางมาทำพิธีเปิดการประชุมระดับรัฐมนตรีความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป) ระหว่างอาเซียน และ 6 แระเทศคู่เจรจา คือ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ที่โรงแรมปักกิ่ง กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน จากนั้น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ได้ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม โดยได้ขอให้ทุกประเทศร่วมกันสนับสนุนการเจรจา เพื่อผลักดันให้บรรลุความสำเร็จภายในสิ้นปีนี้


อย่างไรก็ตาม ระหว่างพักการประชุมใน ช่วงเที่ยง นายจุรินทร์ กล่าวว่า การประชุมช่วงเช้าถือว่าประสบความสำเร็จดี สามารถเจรจาได้ตามเป้าหมาย ส่วนในช่วงบ่าย จะมีการประชุมต่อเพื่อดูถ้อนคำที่จะนำมาบรรจุในร่างความตกลง โดยสมาชิกทุกประเทศ มีความพยายามที่จะผลักดันให้จบตามเป้าหมาย เพื่อให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว

สำหรับอาร์เซ็ปเป็นความตกลงที่มีความทันสมัยและมีมาตรฐานสูง ครอบลุมทุกมิติทางการค้ายุคใหม่ที่หลากหลาย ซึ่งจะช่วยให้การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเข้มแข็งและสร้างสภาวะแวดล้อมทางการค้า การลงทุนที่เอื้อต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ และการพัฒนาของภูมิภาค หาก

ส่วนไทยให้ความสำคัญกับอาร์เซ็ปมาก เพราะเป็นเครื่องมือในการขยายการค้าและการลงทุนในภูมิภาค ซึ่งจะช่วยให้ไทยเป็นฐานการผลิต และมีการลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนจากต่างชาติ และเกิดการขยายเครือข่ายภาคการผลิต และการกระจายสินค้าของไทย ผู้ประกอบการไทยจะสามารถหาแหล่งวัตถุดิบที่มีความหลากหลาย ทั้งเชิงคุณภาพและราคามากขึ้น รวมทั้งจะเพิ่มช่องทางให้กับผู้บริโภคในการเลือกซื้อสินค้าและบริการมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังจะช่วยลดความซ้ำซ้อนเรื่องกฎถิ่นกำเนิดสินค้า กฎระเบียบและมาตรการทางการค้า ส่งผลให้มีการยอมรับกฎเกณฑ์ด้านมาตรฐานต่างๆ ระหว่างกันมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การขยายตัวทางการค้าและการลงทุนของไทย และของภูมิภาค โดยสินค้าที่ไทยคาดว่าจะได้รับประโยชน์เพิ่มเติม เช่น เครื่องจักร อุปกรณ์ไฟฟ้า พลาสติกและเคมีภัณฑ์ ยานยนต์และชิ้นส่วนยางล้อ เส้นใย สิ่งทอ เครื่องแต่งกาย ผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลัง และกระดาษ เป็นต้น