“จุรินทร์”ถอนเรื่อง “ซีพีทีพีพี” ออกจาก ครม. 28เม.ย.นี้

  • หักหน้า”สมคิด”จังๆ หลัง”กนศ.”เห็นชอบให้เสนอครม.
  • ย้ำเหตุถอนเรื่องออกเพราะสังคมยังมีข้อกังวลหลายเรื่อง
  • ลั่นไม่เสนอครม.อีกตราบใดที่ยังมีความเห็นขัดแย้ง

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีที่กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ได้นำเสนอผลการศึกษา และผลการระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ในเรื่องที่ไทยจะเข้าร่วมเป็นสมาชิกความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (ซีพีทีพีพี) ต่อสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา ตามมติที่ประชุมคณะคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) ที่มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เมื่อเดือนก.พ.63 เพื่อให้บรรจุเข้าวาระครม.ว่า เมื่อปรากฎว่ายังมีความเห็นแย้งกันอยู่ในระหว่างฝ่ายต่างๆ กระทรวงพาณิชย์ จึงได้ขอถอนเรื่องที่เสนอออกจากการพิจารณาของครม.วันที่ 28 เม.ย.63 แล้ว และจะไม่เสนอเรื่องนี้ให้ครม.พิจารณาอีก ตราบใดที่ภคส่วนต่าง ในสังคมยังมีความเห็นขัดแย้งกันอยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สาเหตุที่กระทรวงพาณิชย์ถอนเรื่องดังกล่าว เป็นเพราะนายจุรินทร์ เห็นว่า ยังมีประเด็นที่ภาคประชาสังคมเป็นกังวล โดยเฉพาะการคุ้มครองพันธุ์พืชใหม่ ที่ก่อให้เกิดการผูกขาดเมล็ดพันธ์ุและกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของเกษตรกร,  การเปิดตลาดให้กับสินค้าใช้แล้วที่นำมาปรับปรุงสภาพเป็นของใหม่, การจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ, การเข้าถึงยา ซึ่งจะมีผลกระทบต่อระบบสาธารณสุขของไทย รวมถึงลไกระงับข้อพิพาทระหว่างนักลงทุนกับรัฐที่อาจจะเกิดผลกระทบต่อนโยบายปกป้องผลประโยชน์สาธารณะ นอกจากนี้ การระบาดของโควิด-19 ในปัจจุบันอาจไม่ใช่เวลาเหมาะสมที่จะเข้าเป็นสมาชิก อย่างไรก็ตาม การพิจารณาเรื่องนี้เป็นความหนักใจของนายจุรินทร์อย่างยิ่ง เพราะไม่อยากขัดใจพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจของนายสมคิด ที่สนับสนุนการเข้าเป็นสมาชิก

ขณะที่น.ส.กรรณิการ์ กิตติเวชกุล รองประธานกลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (เอฟทีเอ วอทช์) กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากคนในครม.ว่า กระทรวงพาณิชย์ ได้ถอนวาระการพิจารณาเรื่องการเข้าเป็นสมาชิกซีพีทีพีพี ออกจากการประชุมครม.วันที่ 28 เม.ย.นี้ แต่ไม่รู้ว่า จะแค่ถอนออกในช่วงที่เรื่องนี้กำลังเป็นประเด็นร้อนแรงขึ้นมาในขณะนี้แล้วเสนอให้ครม.ในช่วงที่เรื่องนี้ซาลงหรือไม่ ที่จริงอยากให้รัฐบาลยกเลิกการเข้าร่วมเป็นสมาชิกไปเลย เพราะผลที่ได้ไม่คุ้มเสีย โดยเฉพาะในประเด็นที่เป็นข้อกังวลต่างๆ