จีน-สหรัฐฯ เตรียมเจรจาการค้ารอบใหม่ ดันหุ้นสหรัฐฯเขียวทั้ง 3 ตลาด

  • จีนเผยจะมีการหารือการค้ากับสหรัฐฯในเดือน ก.ย.
  • พร้อมสกัดไม่ให้สงครามการค้ารุนแรงมากขึ้น
  • จีดีพีไตรมาส 2 สหรัฐฯ ชะลอคาดการณ์โต 2%

เมื่อเวลาประมาณ 21.50 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสากรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวอยู่ที่ 26,251.15 จุด พุ่งขึ้น 215.05 จุด หรือ +0.83%ขณะที่ดัชนีแนสแด็กส์ คอมโพซิส เคลื่อนไหวอยู่ที่ 7,948.06 จุด เพิ่มขึ้น 91.17 จุดหรือ +1.16% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ 2,913.36 จุด เพิ่มขึ้น 25.42 จุด หรือ 0.86%

ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯฟื้นตัวขึ้นหลังจากได้ข่าวดีว่า การเจรจาเพื่อยุติสงครามการค้ากำลังเกิดขึ้นอีกครั้ง โดยกระทรวงพาณิชย์ของจีน เปิดเผยใว่า จีนและสหรัฐกำลังหารือกันเกี่ยวกับการจัดการเจรจาการค้าในเดือนก.ย.

ขณะที่นายเกา เฟิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายควรสร้างภาวะแวดล้อมที่เอื้อต่อความคืบหน้าในการเจรจา โดยจีนจะสกัดกั้นไม่ให้สงครามการค้ากับสหรัฐทวีความรุนแรงมากขึ้น และยินดีที่จะแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการค้าอย่างสงบ

ทำให้นักลงทุนกลับมีความหวังอีกครั้ง เพราะในขณะนี้ใกล้ถึงเส้นตายทั้งสองฝ่ายมีกำหนดขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างกันในครั้งที่ 3 รอบแรก ในวันที่ 1 ก.ย.ที่จะถึงนี้

ขณะที่การเปิดเผยตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่ได้แย่จนต้องกังวลถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอยในเร็ววันนี้ โดย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ว่า การคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2562 อยู่ที่ระดับ 2.0% สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
แม้จะต่ำกว่าระดับ 2.1% ในการประมาณการครั้งที่แรก และต่ำกว่าไตรมาสแรกที่ขยายตัวที่ระดับ 3.1%

ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวติดต่อกันเป็นปีที่ 11 แต่การทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนได้ส่งผลกระทบต่อการลงทุน และการผลิตของภาคธุรกิจ ถึงแม้ว่าการบริโภคทะยานขึ้น โดยการใช้จ่ายของผู้บริโภคพุ่งขึ้น 4.7% ในไตรมาส 2 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปี 2557 และเพิ่มขึ้นจากตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ที่ระดับ 4.3% โดยได้รับแรงหนุนจากตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง

ส่วนการลงทุนในภาคธุรกิจลดลง 0.6% ในไตรมาส 2 ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2559 และการลงทุนในภาครัฐลดลงเช่นกัน ส่วนการใช้จ่ายในการสร้างบ้านหดตัวลงติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 6 ซึ่งเป็นช่วงขาลงที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ที่เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่

นอกจากนี้ สหรัฐขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 9.825 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯในไตรมาส 2 โดยเพิ่มขึ้นจากตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ที่ระดับ 9.787 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ
๕๕๕๕๕๕