จีนส่อเค้าเปิดประเทศล่าช้าหลังโควิดระบาดหนัก

.นักเศรษฐศาสตร์คาดอาจกลับไปล็อกดาวน์เข้มข้นอีก
.เซี่ยงไฮ้สั่งผู้เดินทางเข้าเมืองเลี่ยงไปที่สาธารณะ 5 วัน
.พนักงานฟ็อกซ์คอนน์เครียดถูกกักตัวปะทะเดือดรปภ.

นายแลร์รี หู่ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จีนจากแมกควารี (Macquarie) เปิดเผยว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นทั่วจีนแผ่นดินใหญ่ ทำให้เป็นเรื่องยากที่รัฐบาลจะประสบความสำเร็จในการใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Zero-Covid) โดยไม่กลับไปใช้วิธีล็อกดาวน์ที่รุนแรงเหมือนเดิม
“จีนอาจจะผ่านจุดที่ไม่อาจย้อนกลับได้ไปแล้ว เพราะมีแนวโน้มต่ำมากที่จะทำตามนโยบายโควิดเป็นศูนย์ได้อีกครั้งโดยไม่มีการล็อกดาวน์แบบเข้มงวดเหมือนที่ทำกับเซี่ยงไฮ้ สิ่งที่กลุ่มผู้กำหนดนโยบายสามารถทำได้ตอนนี้ คือ ชะลอการแพร่ระบาด ด้วยการยกระดับมาตรการโควิด-19 ให้เข้มงวดอีกครั้งไปสักระยะ จากก่อนหน้านี้ ที่ทางการจีน กำลังเตรียมพร้อมเปิดเมืองอีกครั้งใน 6-9 เดือนข้างหน้า”


ขณะที่สมาคมอุตสาหกรรมรถยนต์ของจีน ระบุว่า สมาคมจะยกเลิกจัดการประชุม “China Automotive Overseas Development Summit” ที่เมืองเซี่ยงไฮ้ ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 2 แล้วในวันที่ 23 พ.ย.นี้ เพราะสถานการณ์โควิด-19 ย่ำแย่ลงมาก และมียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สร้างแรงกดดันต่อหน่วยงานท้องถิ่นของจีนในการควบคุมการแพร่ระบาดโดยไม่ต้องใช้มาตรการที่รุนแรง เช่น การล็อกดาวน์ขนานใหญ่


ทั้งนี้ คณะกรรมการด้านสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) แถลงว่า วันที่ 22 พ.ย. พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 29,157 ราย เพิ่มขึ้นจาก 28,127 รายเมื่อวันที่ 21 พ.ย. ขณะที่เมืองสำคัญหลายแห่ง ตั้งแต่กรุงปักกิ่งไปจนถึงเซี่ยงไฮ้ ได้ประกาศควบคุมการเดินทางของประชาชน เพื่อสกัดการแพร่ระบาด
โดยเทศบาลนครเซี่ยงไฮ้มีคำสั่งให้ผู้ที่เดินทางเข้าเซี่ยงไฮ้ หลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าไปยังสถานที่สาธารณะเป็นเวลา 5 วัน เริ่มจากวันที่ 24 พ.ย.นี้ ส่วนผู้ที่เดินทางมายังเซี่ยงไฮ้จะถูกห้ามเข้าไปยังสถานที่ต่างๆ ทั้งร้านอาหาร, ผับ, ห้างสรรพสินค้า, ซูเปอร์มาร์เก็ต และตลาดสด อินเทอร์เน็ตคาเฟ่ และสถานบันเทิงอื่นๆ


ส่วนที่กรุงปักกิ่ง ประชาชนจะต้องแสดงผลการตรวจเชื้อโควิด-19 แบบ PCR ที่เป็นลบภายในเวลา 48 ชั่วโมงก่อนเข้าไปยังพื้นที่สาธารณะหรือใช้บริการรถประจำทาง โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 24 พ.ย.นี้เช่นกัน ขณะที่โรงเรียนทั้งหมดถูกสั่งปิด และเปลี่ยนเป็นการเรียนจากที่บ้าน
ด้านสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า พนักงานที่โรงงานฟ็อกซ์คอนน์ในเมืองเจิ้งโจวกว่า 100 ชีวิตได้ปะทะกับพนักงานรักษาความปลอดภัย (รปภ.) หลังรวมตัวประท้วง เพราะไม่พอใจที่พนักงานกว่า 200,000 คน ถูกกักตัวอยู่ภายในโรงงาน เพื่อสกัดโควิด-19 นานเกือบหนึ่งเดือนแล้ว หรือตั้งแต่เดือนต.ค.65 ส่งผลให้พนักงานหลายคนบาดเจ็บ ก่อนที่ตำรวจควบคุมฝูงชนจะควบคุมสถานการณ์ได้