“จิรายุ”โวยรัฐบาลไม่จริงจังกวดขันบ่อนหลังโควิดระบาดเตรียมร่าง พรบ.ลงทัณฑ์ชงยาแรงเคยโดนเด้งห้ามอยู่สาย ป.สาย ส.ไม่น้อยกว่า 10 ปี

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ประธานคณะกรรมาธิการ กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชนและกองทุน กล่าวว่า ตนรู้สึกผิดหวังกับ การใช้ลมปากของรัฐบาลว่า จะปฏิรูปโน่นนี่ สุดท้ายตลอด 7 ปีที่ผ่านมาเป็นแค่วาทะกรรม อ้างเพื่อยึดอำนาจสุดท้ายบ้านเมืองมีแต่ปัญหา ยาเสพติดเต็มบ้าน บ่อน สล็อต ตู้ม้าส่วยเต็มเมือง จนทำให้เป็นแหล่งแพร่ระบาดของโควิดแถมยังแถออกมาว่าเป็นโกดังเก็บของ ที่ผ่านมาตนได้เฝ้าระวังเรื่องของยาเสพติดและอบายมุขในหลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร มาโดยตลอดพบว่ายังมีบ่อนการพนัน ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่รวมทั้งตู้ม้าตู้ Slot Machine วางอยู่เกลื่อนเมือง แต่เจ้าหน้าที่กลับมองไม่เห็น จนตนเคยอภิปรายโพยบ่อนในสภาไม่ถึง 2 วัน ยิงกันสนั่นบ่อน พระราม3

 ครั้นเมื่อถูกจับได้ ผู้บังคับบัญชาก็มักจะย้ายเพียงแค่ 5 เสือของสถานีตำรวจสุดท้ายแล้วเหตุการณ์ผ่านไปซักระยะ ก็ย้ายกลับมาประจำการเหมือนกับไม่มีอะไรเกิด ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ ไม้ได้เกิดการปฏิรูปตำรวจอย่างจริงจังเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ได้เป็นที่พึ่งหวังของประชาชนอย่างแท้จริง และตนจะรอดูน้ำยา ของ ผบ.ตร.คนใหม่ว่า จะจริงจังแค่ไหนวันนี้ หากพบกรณีเช่นนี้ ต้องให้พักราชการ หรือออกไว้ก่อน รับรองตำรวจท้องที่ไม่กล้าแน่นอน

นายจิรายุ กล่าวว่า วันนี้ทีมกฎหมาย กำลังยกร่างพระราชบัญญัติ ลงโทษลงฑันต์โดยจะเพิ่มความเข้มข้นในการลงโทษกับข้าราชการที่มีส่วนรู้เห็น เช่นหากพื้นที่ใดมีบ่อนการพนันหรือยาเสพติดที่ชัดเจนถูกจับได้ ต้องให้ตำรวจพักราชการหรือให้ออกไว้ก่อน ไล่ตั้งแต่ระดับผู้บังคับบัญชาขึ้นไป 3 ตำแหน่ง ลงไป 5 ตำแหน่งไม่ใช่เพียงแค่5เสือ สน. เพียงอย่างเดียว และ ต้องมีระยะเวลาของมลทินเช่นถ้าเป็นผกก.ก็ให้ไปทำงานสายอื่น และห้ามมาดำรงตำแหน่งงานป้องกันและปราบปราม และ ฝ่ายสืบสวนสอบสวน อย่างน้อย 5 ปี และจากการเก็บข้อมูลของ กมธ.กิจการศาลฯ พบว่ามีตำรวจ 5 เสือที่ถูกย้ายกรณีดังกล่าว กว่าร้อยละ 90ได้ย้ายกลับไป ที่เดิมและผลของการตั้งกรรมการสอบสวน ของ ตร. ไม่มีผลอย่างเป็นรูปธรรม ทำให้ ตร.ที่ถูกย้ายเพียงแค่วิ่งนาย ขายน้อง ฟ้องเพื่อน ประเดี่ยวก็ได้ กลับไปนั่งที่เดิมซึ่ง จะนำข้อมูลเหล่านี้ถูกรวบในการยกร่าง พรบ.ดังกล่าวแล้ว ตนได้รับเรื่องร้องเรียนไม่ใช่แต่เฉพาะประชาชน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ต่างๆที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ 5 เสือ บ่นมาโดยตลอดว่าไม่เคยได้แม้แต่สลึงเดียวแต่เวลามีปัญหาก็ซวยยก

“จะเร่งร่างพรบ.เข้าสู่สภา แต่ขอนำเรียนไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผบ.ตร.ว่า3 เดือนมานี้ ท่านลดส่วย ด่านเป่า ด่านลอย ด่านจ๊ะเอ๋ ได้มากแล้ว หากท่านยัง มีความตั้งใจให้ท่านใช้ดาบที่มีอยู่เพื่อผดุงความยุติธรรมให้กับประชาชนด้วยการลงดาบอย่างจริงจังไม่ใช่แค่ย้ายเพื่อหลบมุมเพียงเท่านั้น ทั้งนี้จะทำจดหมายถึงประธานคณะกรรมาธิการตำรวจให้ตรวจสอบเพิ่มในกรณีย้าย 5 เสือทุก สน.ในช่วงสองปีที่ผ่านมาว่าสรุปแล้วมีการลงโทษลงทัณฑ์อย่างไร ได้ดิบได้ดีกันขนาดไหนเพื่อนำเสนอให้กับนายกรัฐมนตรีและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และในชั้นกรรมาธิการ เพื่อยกร่าง พรบ.ลงทัณฑ์ต่อไปเพื่อให้สังคมไทยน่าอยู่เสียที” นายจิรายุ กล่าว