จาก “Gen Z” ถึง “Baby boomers”

  • ยุคสมัยแตกต่างแต่(ต้อง)ไม่แตกแยก
  • เว้นแต่“คุณ” ต้องการ“เขา”
  • แต่“เขา” ไม่ต้องการ“คุณ”

 รายงานพิเศษของนิตยสารธุรกิจ“บลูมเบิร์ค” วิเคราะห์เปรียบเทียบชาวโลกกลุ่มคนต่างยุคต่างสมัยโดยมุ่งเน้นถึง“Gen Z” (เจเนอเรชันซี) กลุ่มคนรุ่นใหม่เกิดช่วงหลังปีค.ศ. 1995 – 2012 หรือช่วงพ.ศ. 2538 – 2555 หรือปัจจุบันอายุตั้งแต่7 – 22 ปี

    คนกลุ่มGen Z กำลังกลายป็นผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ที่สุดของโลกด้วยจำนวนมากราว1 ใน4 ของประชากรโลกเฉพาะในสหรัฐคนกลุ่มนี้มีพลังการบริโภคสินค้าแต่ละปีมูลค่ามากถึงราว143,000 ล้านเหรียญสหรัฐทำให้บริษัทธุรกิจสินค้านานาชนิดมิอาจมองข้ามอำนาจการจับจ่ายซื้อหาสินค้าของคนกลุ่มนี้ 

    ข้อมูลคนยุคGen Z โดยรวมในสหรัฐส่วนใหญ่เป็นคนผิวสีมากถึง49% หรือเกือบครึ่งหนึ่งพฤติกรรมการใช้สื่อออนไลน์ของคนกลุ่มนี้เรียกได้ว่า“เข้าขั้นเสพติด” และเกือบทุกคนมีสมาร์ทโฟนของตัวเอง 

    คนกลุ่มGen Z ไม่รู้จักโลกที่ไม่มีอินเทอร์เน็ตไม่นิยมใช้จดหมายอิเล็กทรอนิกส์หรืออีเมลไม่นิยมดูโฆษณาสินค้าทางโทรทัศน์และครึ่งหนึ่งของคนยุคGen Z ออนไลน์เฉลี่ยวันละราว10 ชั่วโมงดูยูทูปวันละราว2 ชั่วโมงและร้อยละ80 จะกระวนกระวายถ้าอยู่ไกลจากอุปกรณ์สื่อสารของตัวเอง 

    ความต่างของGen Z กับMillenials หรือ“คนยุคเปลี่ยนสหัสวรรษ” แม้ช่วงวัยใกล้เคียงกันคืออยู่ในช่วงวัยรุ่นและผู้ใหญ่ตอนต้นแต่พฤติกรรมหลายอย่างของคน2 กลุ่มนี้แตกต่างกันอาจเป็นเพราะการเลี้ยงดูที่ต่างกันเนื่องจากคนยุคMillenials ส่วนใหญ่ได้รับการเลี้ยงดูโดยกลุ่มคนปู่ย่าตายายรุ่นBaby Boomers หรือกลุ่มคนยุคหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่2 หรือช่วงค.ศ1946 – 1960 (อายุ54 -72 ปี) แต่คนกลุ่มGen Z กำเนิดและถูกเลี้ยงดูโดยกลุ่มคนGen X หรือกลุ่มคนเกิดยุคค.ศ. 1966 – 1976 (อายุ38 – 53 ปี) 

    สภาพแวดล้อมการเกิดและเติบโตของกลุ่มคนGen Z ก็ต่างกับคนยุคMillenials ซึ่งเกิดและเติบโตระหว่างยุคเศรษฐกิจเฟื่องฟูในขณะที่กลุ่มคนGen Z ค่อนข้างมองโลกตามความเป็นจริงมากกว่าเพราะพวกเขาโตในยุคเศรษฐกิจโลกฝืดเคืองจึงใช้เงินค่อนข้างระมัดระวังรอบคอบมากขึ้นและไม่ค่อยนิยมฟุ้งเฟ้อเลือกใช้สินค้าแบรนด์เนมบ้างไม่มากแต่ส่วนใหญ่มักเลือกซื้อหาสินค้ามือสองหรือสินค้าแบรนด์เนมตกรุ่น 

    การเที่ยวเล่นตามห้างสรรพสินค้าของกลุ่มคนGen Z ก็เพื่อเน้นความบันเทิงและพบปะสังสรรค์เพื่อนฝูงคนใกล้ชิดแต่ไม่ใช่เน้นเลือกซื้อสินค้าเหมือนกลุ่มคนยุคGen X หรือGen Y  

    กลุ่มคนGen Z นิยมเลือกซื้อสินค้าและหาข้อมูลสินค้าผ่านเครือข่ายออนไลน์รูปแบบการใช้ชีวิตต้องแตกต่างจากสภาพบรรยากาศของคนยุครุ่นพ่อรุ่นแม่หรือรุ่นปู่ย่าตายายคนกลุ่มนี้เลือกเชื่อถือและยึดแนวทางการใช้ชีวิตตามอย่าง“อินฟลูเอนเซอร์” — Influencers หรือบุคคลโด่งดังประสบความสำเร็จตามแนวทางความพึงพอใจของตัวเอง 

    ปรากฏการณ์ลักษณะนี้ของกลุ่มคนGen Z ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในสหรัฐฯเท่านั้นหากยังครอบคลุมถึงทั่วโลกรวมถึงในจีนและญี่ปุ่นเฉพาะในจีนเหล่านักการตลาดคาดว่าการเลือกซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์จะมีมูลค่าสูงถึงกว่า413,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯภายในปี2565 เพิ่มจากตัวเลข90,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯเมื่อช่วงปี2560 ลูกค้ากลุ่มสำคัญคือGen Z เพราะคนกลุ่มนี้ยังมีเวลาทำงานหาเงินได้อีกยาวนาน……