มีรายงานข่าวจากต่างประเทศ ว่าถึงความเคลื่อนไหวในประเทศเกาหลีเหนือ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยังคลุมเครือเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพของ ผู้นำ “คิม จอง อึน” หลังจากการผ่าตัดหลอดเลือดหัวใจว่า บางแหล่งระบุว่าสุขภาพของเขาไม่มีปัญหา บางแหล่งบอกว่าโคม่า บางแหล่งลือไปถึงขึ้นเสียเสียชีวิต
ที่ผ่านมาได้มีการจับตามองผู้คนรอบข้างของผู้นำดังกล่าวโดยเฉพาะ “คิม โย จอง” น้องสาวตนสนิทของเขาวัย 33 ปี ผู้ซึ่งเคยไปศึกษาในประเทศสวิสเซอร์แลนด์พร้อมกับเขา ซึ่งมักปรากฏการณ์อยู่ข้างเขา ถูกระบุว่าจะเป็นผู้สืบทอดอำนาจต่อไป
อย่างไรก็ตาม มีการเปิดเผยชื่ออีกคนหนึ่งคือ “คิม พยอง อิล” ซึ่งเป็น้องชายคนละแม่ คิม จ็อง-อิล อดีตผู้นำเกาหลีผู้ล่วงลับพ่อของผู้นำคนปัจจุบัน โดย “คิม พยอง อิล” วัย 65 ปี อดีตนักการฑูตของเกาหลีเหนือที่ใช้ชีวิตในต่างประเทศตั้งแต่ปี 1979-2019 ล่าสุดเขาเกษียณตัวเองและควบคุมอยู่ในบ้าน นอกกรุงเปียงยาง เขาเป็นอีกผู้หนึ่งที่ถูกจับตามองว่าอาจเป็นได้ที่จะก้าวมาเป็นผู้นำแทน หลานของเขา
“คิม พยอง อิล” เป็นใคร?
เขาเป็นลูกชายคนสุดท้องและคนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ของ “คิม อิล ซุง” ผู้นำคนแรกของเกาหลีเหนือ กับภรรยาคนที่สอง “คิม ซอง เอ” ที่แต่งงานกับผู้ก่อตั้งเกาหลีเหนือหลังจากการเสียชีวิตของ “คิม จอง ซุค” ภรรยาคนแรกของเขา แม่ของ “คิม จอง อิล” ผู้นำคนที่สองและย่าของผู้นำคนปัจจุบัน
“คิม ซอง เอ” ปัจจุบันเสียชีวิตมา 2 ปี ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา เธอถูกขัดขวางความพยายามไต่เต้าขึ้นมามีอำนาจและถูกกักขังอยู่ภายในบ้านหลังจากล้มเหลวในการผลักดัน “คิม พยอง อิล” เป็นผู้สืบทอดของ คิม อิล ซุง
เขาใช้ชีวิตเป็นนักการฑูตของเกาหลีเหนือในหลายๆ ประเทศรวมถึงในปรเะเทศฮังการี, บัลแกเรีย, ฟินแลนด์, โปแลนด์ และสาธารณรัฐเช็กก่อนจะกลับเกาหลีเหนือเมื่อปีที่แล้ว
แม้ว่า “คิม พยอง อิล” จะถูกกีดกันจากอำนาจ ไม่มีให้เห็นในสื่อของรัฐ และไม่เคยสะสมอำนาจมากพอที่จะท้าายความเป็นผู้นำได้ แต่ในสายตาของผู้คนทั่วไปบางคนระบุว่าเขาอาจรับต่ำแหน่งต่อจาก “คิม จอง อึน” วัย 36 ปี นี้ได้ เพราะเขามีสายเลือดของอดีตผู้ก่อตั้งเกาหลีเหนือและเป็นผู้ชาย
ทั้งนี้การให้ผู้ชายเป็นผู้นำในเกาหลีเหนือ อาจะจะเป็นต่อต้านการมอบตำ่แหน่งผู้นำให้ “คิม โย จอง” โดยน้องสาวของเขาได้อยู่เคียงข้างเขาช่วยกันกำหนดนโยบายในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา “เท ยอง โฮ” อดีตอุปฑูตของเกาหลีเหนือประจำประเทศอังกฤษซี่งปัจจุบันแปรพักตร์ไปซบเกาหลีใต้ให้ความเห็น รวมทั้งเธอมีอายุน้อยด้วย
“ปัญหาคือว่าเกาหลีเหนือหาก คิมโย จอง ขึ้นมาเป็นผู้นำไม่น่าจะยั่งยืน” เท กล่าวและระบุว่า ความเป็นผู้นำของเธออาจนำไปสู่ความโกลาหล” เพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งนี้ ผู้นำบางคนพยายามที่จะนำ คิม พยอง อิล ซึ่งตอนนี้ถูกกักบริเวณในบ้านขึ้นมาอยู่จุดศูนย์กลางของอำนาจ “
ในขณะที่ความคิดเห็นของคนอื่นๆ ไม่คิดว่า คิม พยอง อิล มีโอกาสขึ้นมาเป็นผู้นำ ผู้ตัดสินคดีกฎหมายชาวเกาหลีใต้ “คิม บยอง กิ” สมาชิกคณะกรรมการข่าวกรองของรัฐสภา เกาหลีใต้ กล่าวผ่านโซเชียลมีเดียว่าไม่มีข้อบ่งชี้ว่าเขาอาจจะประสบความ “ฉันหัวเราะทฤษฎีนี้”
ที่ผ่านมาบ่อยครั้งนักเกาหลีเหนือมักถูกเนรเทศบรรดากลุ่มคนที่มีแนวโน้มจะเข้าสู่ศูนย์กลางอำนาจ และส่งพวกเขาไปต่างประเทศเพื่อพยายามกำจัดอิทธิพล แต่ยังสนับสนุนการเงินที่ทำให้พวกเขาต้องพึ่งพาผู้นำของกรุงเปียงยาง
แต่หากเขาขึ้นมาเป็นผู้นำได้ก็จะเป็นคนแรก หลังจากในช่วงที่ผ่านมา “คิม จอง อึน” ได้จำกัด อาเขยของเขา “จาง ซอง แทค” ที่มีอำนาจอันดับ 2 รองจากเขา รวมทั้ง “คิม จอง นัม” พี่ชายต่างมารดาของเขาที่เสียชีวิตในประเทศมาเลเซียอย่างมีเงื่อนงำ
มีข้อเท็จจริงว่า “คิม พยอง อิล” รอดพ้นจากการล้างแค้นอาจบ่งบอกว่าผู้นำเกาหลีเหนือไม่เคยเห็นเขาเป็นคู่แข่งที่น่ากลัว ทำให้เขาอยู่ต่างประเทศและรับราชการเป็นเวลาหลายปีในปี 2015 เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทูตเกาหลีเหนือ สาธารณรัฐเช็กและได้รับความคุ้มครองเป็นพิเศษในปี 2017 เมื่อ “คิม จอง นาม” ถูกสังหาร
“ลูโบเมีย ซาโอราเลค” อดีตฐัมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐเช็กตั้งแต่ปี 2014 ถึงปี 2017 กล่าวถึงตัวเขาว่า ในระหว่างเขาอยู่ยุโรปเขาค่อนข้างจะเก็บตัวเงียบ แต่เขายังคงสร้างความประทับใจ สไตล์และท่าทางของเขาเหมือนกับว่าเขามาจากเกาหลีใต้
“คุณจะเห็นว่าเขามาทำงานในยุโรปและเขาใช้ชีวิตที่นี่ เขาระวังในสิ่งที่เขาพูดเสมอ แต่มันก็สมเหตุสมผลดีและดูเหมือนว่าเขาจะมีชีวิตที่อิสระมากกว่าชาวเกาหลีเหนือคนอื่นๆ”
หนังสือพิมพ์ “จุงกิง อิลโบ” รายงานว่าเขากลับไปกรุงเปียงยางเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เพื่อให้ผู้นำคิม จอง อึน สามารถเฝ้าดูเขาได้อย่างใกล้ชิด
