จัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ กดดัชนีหุ้นไทยดิ่งเหว!รายวัน

  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยหุ้นไทยปิดต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี  2 เดือน
  • กังวลเกี่ยวกับนโยบายของพรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้ง 
  • เปิดช่วงเช้าวันนี้ ( 22 พ.ค.) หลุด 1,500 จุด 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นับตั้งแต่การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พ.ค.66 เสร็จสิ้นลง พร้อมได้ผู้ชนะการเลือกตั้งอันดับ 1 พรรคก้าวไกล ที่จะเป็นแกนนำการจัดตั้งรัฐบาล และขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาพรรคการเมือง เพื่อร่วมจัดตั้งรัฐบาล และเจรจาสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)​เพื่อให้ได้เสียงรวมกัน   376  เสียง เพื่อโหวตให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 

แต่เนื่องด้วยความไม่ชัดเจน และความกังขาในหลากหลายประเด็น ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นตลาดหุ้นไทย  ทำให้ดัชนหุ้นไทยลดลงต่อเนื่อง จนวันนี้ (22 พ.ค.)​ ทันที่เปิดตลาดหุ้นเวลา 10.00 น. ดัชนีหุ้นติดลบทันที หลุด 1,500 จุด 

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นในช่วงวันที่ 15-19  พ.ค.66 ระบุว่า หุ้นไทยปิดต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี 2 เดือน ท่ามกลางแรงฉุดจากปัจจัยทั้งในและต่างประเทศ ทั้งนี้หุ้นไทยปรับตัวลงตั้งแต่ต้นสัปดาห์ หลังนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับนโยบายของพรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้ง โดยเฉพาะเรื่องการลดค่าไฟฟ้าและลดปัญหาการผูกขาด ซึ่งกระตุ้นแรงขายหุ้นบิ๊กแคป โดยเฉพาะกลุ่มโรงไฟฟ้าและสื่อสาร นอกจากนี้ หุ้นไทยยังมีแรงกดดันเพิ่มเติมจากความกังวลต่อทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ หลังถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายยังไม่ส่งสัญญาณถึงโอกาสของการปรับลดดอกเบี้ย อนึ่ง หุ้นไทยฟื้นตัวช่วงสั้นๆระหว่างสัปดาห์ก่อนจะร่วงลงต่อในช่วงปลายสัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนยังรอติดตามความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่อง

สำหรับสถิติหุ้นไทยช่วงวันที่ 15-19 พ.ค. 66 

วันที่ 15 พ.ค.2566 ดัชนีหุ้น ปิดที่ 1,541.38 จุด ลดลง 19.97 จุด มูลค่าซื้อขาย 68,385 ล้านบาท
วันที่ 16 พ.ค.2566 ดัชนีหุ้น ปิดที่ 1,539.84 จุด ลดลง 1.54 จุด มูลค่าซื้อขาย 53,189 ล้านบาท
วันที่ 17 พ.ค.2566 ดัชนีหุ้น ปิดที่ 1,522.74 จุด ลดลง 17.10 จุด มูลค่าซื้อขาย 57,403 ล้านบาท
วันที่ 18 พ.ค.2566 ดัชนีหุ้น ปิดที่ 1,526.69 จุด เพิ่มขึ้น 3.95 จุด มูลค่าซื้อขาย 54,750 ล้านบาท
วันที่ 19 พ.ค.2566 ดัชนีหุ้น ปิดที่ 1,514.89 จุดลดลง -11.80 จุด มูลค่าซื้อขาย 47,322 ล้านบาท