คอหวยรอเลย… “บอร์ดสลาก” เคาะเพิ่มปริมาณสลากดิจิทัลอีก 2 ล้าน รวมเป็น 7 ล้านฉบับ งวดแรก 1 ส.ค. 65

  • เผยหากผลการตอบรับสลากดิจิทัลขายหมดในเวลาเร็วเช่นที่ผ่านมา ก็มีแผนเพิ่มสลากในงวดถัดไปอีก 2 ล้านฉบับ
  • ชี้เพื่อให้ค่อยเป็นค่อยไป รักษาสมดุลระหว่างสลากใบและระบบสบาดดิจิทัล
  • กำหนดจำนวนสูงสูดที่จะเพิ่มไม่เกิน 20 ล้านฉบับ ภายในสิ้นปี 65 นี้
  • พร้อมขยายจุดจำหน่ายสลาก 80 ไปยังสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (23 มิ.ย.65) เวลา 15.00 น. ที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล พร้อมด้วย รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล และ พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ร่วมกันแถลงข่าวการดำเนินมาตรการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคาด้วยการจำหน่ายสลากผ่านแอปเป๋าตัง และโครงการจุดจำหน่ายสลาก 80 

นายลวรณ กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลได้พิจารณาแล้ว โดยมีมติให้เพิ่มปริมาณสลากจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์ม หรือสลากดิจิทัล อีก 2 ล้านฉบับ ในงวดวันที่ 1 ส.ค. 2565 โดยจะเริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค. 2565 และจะติดตามผลการจำหน่ายสลากอย่างใกล้ชิด 

โดยหากผลการตอบรับสลากดิจิทัลขายหมดในเวลารวดเร็วเช่นที่ผ่านมา ก็จะพิจารณาเพิ่มปริมาณสลากในงวดถัดไปอีก 2 ล้านฉบับ เพื่อให้ค่อยเป็นค่อยไป และรักษาสมดุลระหว่างสลากใบและระบบสบาดดิจิทัล ทำให้ประชาชนสามารถซื้อสลากหมายเลขที่ต้องการได้ในราคา 80 บาท โดยมีระยะเวลาในการเลือกซื้อได้นานขึ้น ผู้ขายสลากดิจิทัลก็มีโอกาสจำหน่ายสลากได้หมด โดยไม่ส่งผลกระทบรุนแรงกับผู้ขายสลากใบ 

“สำหรับสลากที่จะนำมาเพิ่มในระบบดิจิทัลนั้น จะมาจากสลากในระบบซื้อจอง ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากสลากของตัวแทนจำหน่ายที่ถูกยกเลิกสัญญาเนื่องจากนำสลากไปขายต่อ โดยปัจจุบันยอดพิมพ์สลากฯ ปัจจุบันอยู่ที่ 100 ล้านฉบับ เป็นจำหน่ายที่เหมาะสมแล้วในเวลานี้” นายลวรณ กล่าว

นายลวรณ กล่าวต่อว่า การเพิ่มปริมาณสลากดิจิทัล จะพิจารณาความต้องการของประชาชนผู้ซื้อสลาก และต้องพิจารณาถึงระยะเวลาในการขายสลากดิจิทัล ที่ควรจะมีเวลาในการขายตั้งแต่วันแรกจนถึงที่ขายหมด ประมาณ 7-10 วัน เพื่อให้มีเวลามากพอที่จะสร้างกลไกราคาให้อยู่ที่ 80 บาท ทั้งนี้ปริมาณสลากที่เหมาะสมในการเพิ่มแต่ละครั้งไม่เกิน 2 ล้านฉบับ โดยกำหนดจำนวนสูงสูดที่จะเพิ่มไม่เกิน 20 ล้านฉบับ ภายในสิ้นปี 65 นี้ 

นอกจากนี้สำหรับโครงการจุดจำหน่ายสลาก 80 ที่สำนักงานสลากฯ เริ่มดำเนินการมาเป็นเวลา 1 ปีแล้ว ปัจจุบันมีจุดจำหน่ายสลาก 80 ทั้งหมด 754 จุดทั่วประเทศ และยังมีบางส่วนอยู่ระหว่างทำสัญญา ทั้งนี้ตั้งแต่เดือน ส.ค.นี้เป็นต้นไป จะมีจุดจำหน่ายสลาก 80 ทั่วประเทศ 1,077 จุด และภายในปีนี้ สำนักงานฯ จะนำร่องขยายจุดจำหน่ายสลาก 80 ซึ่งจำหน่ายสลากผ่านแอปเป๋าตัง ไปที่สถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น และบางจาก ทั่วประเทศ ไม่น้อยกว่า 2,000 จุด และหากได้รับการตอบรับที่ดีก็มีแผนจะขยายเพิ่มต่อไป

นายลวรณ กล่าวด้วยว่า เป้าหมายในปีนี้สำนักงานสลากฯ วางแผนขยายช่องทางขายสลาก 80 บาท ให้ได้ 30 ล้านใบ โดยแบ่งเป็นสลากดิจิทัล 20 ล้านใบ และอีก 10 ล้านใบเป็นรูปแบบขายผ่านโครงการสลาก 80 จำนวน 2.5 ล้านใบ โดยขายผ่านสถานีบริการน้ำมัน 5 ล้านใบ ส่วนอีก 2.5 ล้านใบ กำลังอยู่ระหว่างพิจารณา 

“ขอยืนยันว่า การขายสลากผ่านช่องทางสถานีบริการน้ำมัน ไม่ได้เป็นการเอื้อนายทุนอย่างใด แต่มีจุดมุ่งหมายเป็นการให้คนขายรายย่อยเป็นตัวจริงที่ขายที่ปั้มอยู่แล้ว หรือคัดเลือกใหม่เข้ามาขายใบ 80 บาท โดยสถานีบริการน้ำมันจะสนับสนุนให้ขายฟรี โดยไม่เสียค่าเช่าที่” นายลวรณ กล่าว

นอกจากนี้ในด้านความคืบหน้าการคัดกรองผู้รับสิทธิ์ซื้อจองสลากรายใหม่ ที่สำนักงานสลากฯ จะมีการประชุมกันในวันที่ 24 มิ.ย.นี้ โดยจะมีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย โดยกำหนดหลักเกณฑ์ในการรับสิทธิ์เป็นผู้ค้ารายใหม่ ซึ่งจากการคัดกรองขณะนี้จากยอดขอรับสิทธิ์กว่า 900,000 ราย ได้ทำการคัดเลือกผู้ที่เข้าเงื่อนไขได้รับสิทธิ์ 300,000 กว่าราย โดยในจำนวนนี้จะมีการสุ่มคัดเลือกในระบบให้เหลือ 70,000 ราย เพื่อเป็นผู้รับสิทธิ์ผู้จองสลาก