ความต้องใช้โลกพุ่ง! แตะ 101.92 ล้านบาร์เรลต่อวัน  ดันราคาน้ำมันเพิ่ม 

  • อานิสงส์จีนเปิดประเทศ
  • ต้องนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศเพิ่ม
  • ตลาดกังวลเฟดสหรัฐฯขึ้นดอกเบี้ย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  บริษัท ปตท.​จำกัด(มหาชน)​ ได้วิเคราะห์สถานการณ์รราคาน้ำมันย้อนหลัง 15 วัน โดยราคาน้ำมันดิบ ICE Brent และ NYMEX WTI เฉลี่ยสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้น จากอุปสงค์น้ำมันโลกมีแนวโน้มฟื้นตัว โดย IEA รายงานอุปสงค์น้ำมันโลกในปี 65 เพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ 99.96 ล้านบาร์เรลต่อวัน (ปรับเพิ่มจากประมาณการณ์ครั้งก่อน 0.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน) และคาดการณ์ในปี 66 เพิ่มขึ้น 1.96 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ 101.92 ล้านบาร์เรลต่อวัน (ปรับเพิ่มจากครั้งก่อน 0.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน) จากอุปสงค์ของจีนฟื้นตัวแข็งแกร่ง โดยคาดว่าปี 66 อุปสงค์จีนจะเพิ่มขึ้น 0.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากปีก่อนหน้า (เกือบครึ่งของอัตราการเติบโตของอุปสงค์โลก) มาอยู่ที่ 15.91 ล้านบาร์เรลต่อวัน และชี้ว่าการเปิดประเทศของจีนจะกระตุ้นการบิน ผลักดันให้อุปสงค์ Jet/Kerosene ของโลกในปี 66 เพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ 7.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน คิดเป็น 90% ของอุปสงค์ในปี 62 ก่อนเกิด COVID-19

อย่างไรก็ตาม ตลาดกังวลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve: Fed) หลังตัวเลขทางเศรษฐกิจมีทิศทางที่ดีขึ้น อาทิ ดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐฯ (Consumer Price Index: CPI) ซึ่งบ่งชี้อัตราเงินเฟ้อ ในเดือน ม.ค. 65 อยู่ที่ 6.4% ต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี ขณะที่ยอดขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) สัปดาห์สิ้นสุด 11 ก.พ.  66 ลดลง 1,000 ราย จากสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 194,000 ราย ซึ่งจะทำให้ Fed อาจเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่อง 

ล่าสุด ผลสำรวจจาก Reuters คาดการณ์ว่า Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% จากระดับปัจจุบัน สู่ระดับ 4.75 – 5.0% ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (Federal Open Market Committee: FOMC) ในเดือน มี.ค. 66 ขณะที่ Bank of America (BoA) คาดการณ์ว่า Fed จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งละ 0.25% ในเดือน มี.ค. 66 และเดือน มิ.ย. 66 สู่ระดับ 5.25-5.50% ซึ่งจะกดดันเศรษฐกิจและราคาน้ำมัน โดยทางเทคนิค สัปดาห์นี้คาดว่าราคา ICE Brent จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 82 – 87 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

สำหรับปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก โดย  EIA, IEA และ OPEC คาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกปี 66 เพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ 101.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน (ปรับเพิ่มจากคาดการณ์ครั้งก่อน 0.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน)

IEA รายงานจีนนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซีย ในเดือน ม.ค. 66 เพิ่มขึ้น 0.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากเดือนก่อนหน้า อยู่ที่ 2.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ Reuters รายงานอินเดียนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซีย ในเดือน ม.ค. 66 เพิ่มขึ้น 0.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากเดือนก่อนหน้า อยู่ที่ 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน สูงสุดเป็นประวัติการณ์

ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ ส่วน EIA คาดการณ์สหรัฐฯ ผลิตน้ำมันดิบในปี 66 เพิ่มขึ้น 0.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากปีก่อนหน้า อยู่ที่ 12.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน สูงสุดเป็นประวัติการณ์     IEA รายงานปริมาณสำรองน้ำมันขององค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (Organization for Economic Co-operation and Development: OECD) ในเดือน ม.ค. 66 เพิ่มขึ้น 27.9 ล้านบาร์เรล จากเดือนก่อนหน้า มาอยู่ที่ 2,795 ล้านบาร์เรล สูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี อย่างไรก็ดี ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี อยู่ 78 ล้านบาร์เรล

สำหรับราคาน้ำมันสำเร็จรูปตลาดสิงคโปร์ เบนซิน  100.59 เหรียญฯต่อบาร์เรล​ ดีเซล 108.49 เหรียญฯต่อบาร์เรล  ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบ 82 เหรียญฯต่อบาร์เรล น้ำมันเวสท็กซัส 77 เหรียญฯต่อบาร์เรล เบรนท์ 84  เหรียญฯต่อบาร์เรล